อุบลราชธานี -สำนักบริหาร พื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดยุทธการลุยขบวนการลักลอบตัดไม้จากนอกประเทศ ส่งกองกำลังที่มีความชำนาญแกะรอยติดตาม พร้อมปะทะกำลังคุ้มกันขบวนการตัดไม้เต็มรูปแบบเพื่อหยุดการตัดไม้พะยูงตาม แนวชายแดนไทย ลาว และกัมพูชา ล่าสุดสั่งฟัน 11 เจ้าหน้าที่พัวพันตัดไม้พะยูงมีโทษถึงไล่ออก วันที่ 11 ต.ค.54 ที่เขตป่าสงวนแห่งชาติดงฟ้าห่วน ต.ขามใหญ่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี นายไพบูลย์ เจริญรัตนะธรรม ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จ.อุบลราชธานี นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยอนุรักษ์ป่าไม้จากเขต 11-16 จำนวน 200 นาย ที่ผ่านการฝึกฝนด้านการแกะรอยติดตามขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูง
รวมทั้งยุทธวิธีการปะทะกับกองกำลังติดอาวุธต่างชาติที่ทำหน้าที่คุ้ม ครองกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้พะยูงตามแนวชายแดนไทย ลาว และ กัมพูชา เพื่อคุ้มครองไม่ให้ไม้พะยูงถูกลักลอบตัดในพื้นที่เขตป่าสงวนที่เป็นรอยต่อ ระหว่างประเทศต่อไป
โดยกองกำลังชุดนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ส่งมาสนับสนุนการปฏิบัติงานของ หน่วยประจำ เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการปราบปรามการลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่ป่า อนุรักษ์ยอดโดม เขตอนุรักษ์ป่ายอดมน
รวมทั้งเขตอนุรักษ์ป่าภูสระดอกบัว ในพื้นที่ 3 จังหวัดอีสานตอนล่าง ซึ่งยังพบการเคลื่อนไหวพยายามลักลอบนำไม้พะยูงที่ตัดแล้ว ส่งไปขายยังประเทศที่ 3 โดยมีระยะเวลาปฏิบัติงานของกองกำลังชุดนี้นาน 1 เดือน
นายไพบูลย์ เจริญรัตนะธรรม ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า ปัจจุบันสามารถหยุดหยั้งการตัดไม้พะยูงที่เป็นการตัดใหม่ โดยขบวนการลักลอบทำไม้ในประเทศได้อย่างสิ้นเชิง แต่ยังพบปัญหาขบวนการลักลอบตัดไม้ที่มาจากประเทศกัมพูชา ทำให้มีการปะทะระหว่างกองกำลังที่เข้ามาคุ้มกันขบวนการลักลอบตัดไม้กับเจ้า หน้าที่อนุรักษ์ของไทย จึงต้องส่งกองกำลังที่มีความชำนาญเข้าไปในพื้นที่ เพื่อจัดการกับขบวนการลักลอบตัดไม้ที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านให้เด็กขาด
และตั้งแต่กลางเดือนกันยายนเป็นต้นมา เจ้าหน้าที่อนุรักษ์เกิดการปะทะกับกองกำลังต่างชาติหลายครั้ง สามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวกัมพูชาที่ข้ามเขตแดนเข้ามาตัดไม้ได้กว่า 20 คน สามารถตรวจยึดไม้พะยูงของกลางได้กว่า 27 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นมูลค่าหลายสิบล้านบาท
ส่วนความคืบหน้าในการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่ง ชาติภูจองนายอย จ.อุบลราชธานี เข้าไปพัวพันกับขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตป่าอนุรักษ์ คณะกรรมการมีความเห็นว่าเรื่องดังกล่าวมีมูลความจริง จึงเสนอให้นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตั้งกรรมการเอาผิดทางวินัยขั้นร้ายแรงกับเจ้าหน้าที่ทั้ง 11 คน
ซึ่งมีโทษตั้งแต่ให้ออก ปลดออก และไล่ออก โดยในจำนวน 11 คน มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงคือ นายวัฒนา นาคช่วย อดีต หน.อุทยานแห่งนี้รวมอยู่ด้วย และจะทราบผลการสอบสวนของคณะกรรมการไม่เกิน 180 วัน
รวมทั้งยุทธวิธีการปะทะกับกองกำลังติดอาวุธต่างชาติที่ทำหน้าที่คุ้ม ครองกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้พะยูงตามแนวชายแดนไทย ลาว และ กัมพูชา เพื่อคุ้มครองไม่ให้ไม้พะยูงถูกลักลอบตัดในพื้นที่เขตป่าสงวนที่เป็นรอยต่อ ระหว่างประเทศต่อไป
โดยกองกำลังชุดนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ส่งมาสนับสนุนการปฏิบัติงานของ หน่วยประจำ เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการปราบปรามการลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่ป่า อนุรักษ์ยอดโดม เขตอนุรักษ์ป่ายอดมน
รวมทั้งเขตอนุรักษ์ป่าภูสระดอกบัว ในพื้นที่ 3 จังหวัดอีสานตอนล่าง ซึ่งยังพบการเคลื่อนไหวพยายามลักลอบนำไม้พะยูงที่ตัดแล้ว ส่งไปขายยังประเทศที่ 3 โดยมีระยะเวลาปฏิบัติงานของกองกำลังชุดนี้นาน 1 เดือน
นายไพบูลย์ เจริญรัตนะธรรม ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า ปัจจุบันสามารถหยุดหยั้งการตัดไม้พะยูงที่เป็นการตัดใหม่ โดยขบวนการลักลอบทำไม้ในประเทศได้อย่างสิ้นเชิง แต่ยังพบปัญหาขบวนการลักลอบตัดไม้ที่มาจากประเทศกัมพูชา ทำให้มีการปะทะระหว่างกองกำลังที่เข้ามาคุ้มกันขบวนการลักลอบตัดไม้กับเจ้า หน้าที่อนุรักษ์ของไทย จึงต้องส่งกองกำลังที่มีความชำนาญเข้าไปในพื้นที่ เพื่อจัดการกับขบวนการลักลอบตัดไม้ที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านให้เด็กขาด
และตั้งแต่กลางเดือนกันยายนเป็นต้นมา เจ้าหน้าที่อนุรักษ์เกิดการปะทะกับกองกำลังต่างชาติหลายครั้ง สามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวกัมพูชาที่ข้ามเขตแดนเข้ามาตัดไม้ได้กว่า 20 คน สามารถตรวจยึดไม้พะยูงของกลางได้กว่า 27 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นมูลค่าหลายสิบล้านบาท
ส่วนความคืบหน้าในการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่ง ชาติภูจองนายอย จ.อุบลราชธานี เข้าไปพัวพันกับขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตป่าอนุรักษ์ คณะกรรมการมีความเห็นว่าเรื่องดังกล่าวมีมูลความจริง จึงเสนอให้นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตั้งกรรมการเอาผิดทางวินัยขั้นร้ายแรงกับเจ้าหน้าที่ทั้ง 11 คน
ซึ่งมีโทษตั้งแต่ให้ออก ปลดออก และไล่ออก โดยในจำนวน 11 คน มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงคือ นายวัฒนา นาคช่วย อดีต หน.อุทยานแห่งนี้รวมอยู่ด้วย และจะทราบผลการสอบสวนของคณะกรรมการไม่เกิน 180 วัน
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น