วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2554

แพทย์พอใจอาการ “พ่อคูณ” คุมน้ำตาลเป็นปกติ-น้ำหนักพุ่ง 40 กก.

แพทย์พอใจอาการ “พ่อคูณ” ดีขึ้นควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติแล้ว ล่าสุด น้ำหนักพุ่งเป็น 40 กิโลกรัม ขณะลูกศิษย์อ่านหนังสือธรรมะให้ฟังเพื่อผ่อนคลายและแก้อาการเบื่อที่ต้องนอนพักในห้องผู้ป่วยเป็นเวลานาน

วันที่ 1 มิ.ย.54 ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งพักรักษาวัณโรคปอดอยู่ที่หอผู้ป่วยพิเศษ 9821ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.54

ล่าสุด อาการโดยรวมเริ่มดีขึ้นหลังระดับน้ำตาลกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ไม่มีอาการอิดโรย อ่อนเพลีย พูดคุยและจดจำลูกศิษย์ใกล้ชิดได้ดี แต่ยังคงมีอาการไอเล็กน้อย โดยช่วงเช้าหลวงพ่อคูณ ได้นั่งรถเข็นออกไปสูดอากาศด้านหน้าห้องพักผู้ป่วยประมาณ 10 นาที ก่อนขึ้นชั่งน้ำหนัก พบว่าน้ำหนักเพิ่มขึ้นจากเดิม 37.5 กิโลกรัม เมื่อ3 วันก่อนเป็น 40 กิโลกรัมในวันที่ 1 มิ.ย.54 ลูกศิษย์ต่างดีใจ แต่แพทย์ยังคงให้อาหารเหลวทางสายยางต่อเนื่องไปอีก พร้อมกับให้น้ำเกลือ นอกจากนี้ลูกศิษย์ใกล้ชิดยังได้อ่านหนังสือธรรมะให้หลวงพ่อฟัง เพื่อเป็นการผ่อนคลายและแก้อาการเบื่อที่ต้องนอนพักในห้องผู้ป่วยเป็นเวลานาน

นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาและ แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า อาการโดยรวมของหลวงพ่อคูณ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่คณะแพทย์พึงพอใจ หลวงพ่อคูณไม่ทรุดหรือแย่ลงกว่าเดิม ส่วนเรื่องระดับน้ำตาลในเลือดที่ตรวจวัดในช่วงเช้า วันนี้อยู่ที่ 260 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ยังมีปริมาณระดับน้ำตาลที่สูงอยู่เล็กน้อยแต่สูงก็ดีกว่าต่ำ คณะแพทย์เราพยายามควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ที่ 100-250 มิลลิกรัมฯ

สำหรับผู้ที่อายุมากอย่างหลวงพ่อ เพราะหากระดับน้ำตาลในกระแสเลือดของหลวงพ่อคูณต่ำอาจส่งผลให้หลวงพ่อคูณเกิดอาการช็อกหรือหมดสติได้

“อย่างไรก็ตาม ได้สั่งให้ทำการเจาะเลือดหลวงพ่อคูณทุกเช้า เพื่อตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดดูความเปลี่ยนแปลง เนื่องจากในช่วงนี้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดหลวงพ่ออาจจะลดหรือเพิ่มขึ้นได้อย่างเฉียบพลัน ซึ่งอาจเป็นผลมาจากอายุของหลวงพ่อคูณ หรือสภาวะต่างๆ ในร่างกายของหลวงพ่อคูณเอง” นพ.พินิศจัย กล่าว

ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น