น้ำป่าไหลทะลักท่วม บ้านธาตุ จอมศรีฤทธิ์ นกเตน”ฝนหนักต่อเนื่อง บ้านเรือนและไร่นาเสียหายนับพันไร่
นายคำพัน บุตรรราช ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดเลยเปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “นกเตน” (NOCK TEN)บริเวณประเทศลาวตอนบน ขณะนี้ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นแล้ว มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 110 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกของจังหวัดน่าน หรือที่ละติจูด 18.5 องศาเหนือลองจิจูด 102.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมงกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 18กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคเหนือบริเวณจังหวัดน่านในลำดับ
ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนมากด้านตะวันตกของภาค กับมีลมแรง ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมามีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่
จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่พื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่ม ในบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ขอนแก่นและชัยภูมิ ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ต่อไปอีกในระยะ 1-2 วันนี้ และขอให้ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนอย่างใกล้ชิดต่อไป
ขณะเดียวกันหลังจากที่มีฝนตกตั้งแต่เมื่อวานนี้ (30 ก.ค. ) เวลา 19.00 น. จนกระทั่งขณะนี้ ทำให้มีปริมาณน้ำฝนสะสมบนเทือกเขาในอำเภอเชียงคาน จนกระทั่งเมื่อเวลา 15.00 น.ปริมาณน้ำไหลจากตำบลเขาแก้ว และตำบลธาตุ เข้าท่วมบ้านศรีพัฒนา หมู่ 5 และบ้านจอมศรี หมู่ 8 ต.นาสี อ.เชียงคาน จ.เลย เข้าท่วมนาข้าวกว่า 1,000 ไร่ และ บ่อปลาที่ชาวบ้านเลี้ยงกว่า 100 บ่อ ได้รับความเสียหาย
นอกจากนี้มีชาวบ้านบ้านจอมศรี จำนวน 6 คน ไปยกยอบนเกาะกลางน้ำ หลังจากน้ำป่าไหลเข้าท่วม ทำให้ติดเกาะ เจ้าหน้าที่ อพปร. อส.ตร. ตำบลนาสี และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสว่างคีรีธรรม ได้ช่วยกันนำ เรือไฟเบอร์ เชือก และอุปกรณ์ช่วยชีวิต ช่วยกันลากฝ่ากระแสน้ำไหลเชี่ยว นำออกมาจากเกาะด้วยความปลอดภัย ทั้ง 6 คน
ขณะเดียวกัน กระแสน้ำที่ไหลผ่าน ต.นาสี ได้ไหลเข้าท่วม ตลาดสามแยกบ้านธาตุ หมู่ 2 เทศบาลตำบลธาตุ ต.ธาตุ อ.เชียงคาน ริมถนนสายเลย-เชียงคาน ก.ม.ที่ 20 กระแสน้ำไหลเข้าท่วมร้านค้าที่ขวางทางน้ำ ได้รับความเสียหาย ต่างพากันข้าวของ สินค้า ตลอดจนสัตว์เลี้ยงหนีน้ำกันอย่างโกลาหล แต่สามารถจัญจรไปมาได้ นอกจากนี้กระแสน้ำจำนวนมากยังเอ่อล้นท่วมทาง สายบ้านธาตุ-ปากชม บริเวณก.ม.ที่ 5 บ้านผาพอด หมู่ 13 ต.ธาตุ อ.เชียงคาน จนเส้นทางขาด รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถเดินทางผ่านไปมาได้
นายโสภณ สุวรรณรัตน์ นายอำเภอเชียงคาน กล่าวขณะออกตรวจความเสียหาย ว่า ทางอำเภอ ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ บรรเทาสาธารณภัยของทุก องค์กรปกครองท้องถิ่น ให้เข้าช่วยเหลือราษฎร ที่ได้รับความเดือดร้อน และสำรวจความเสียหาย อย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น และจะได้นำเงินมาชดเชยตามระเบียบทางราชการต่อไป ซึ่งเงินส่วนนี้มีอยู่แล้ว และสามารถเบิกได้ทันที
และขณะนี้ทางอุตุฯรายงานว่าพายุได้พัดผ่านพ้นจังหวัดเลยไปแล้วเข้าสู่จังหวัดน่านแล้ว ถ้าคืนนี้ไม่มีฝนตกมาซ้ำอีก คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติในวันพรุ่งนี้
นายคำพัน บุตรรราช ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดเลยเปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “นกเตน” (NOCK TEN)บริเวณประเทศลาวตอนบน ขณะนี้ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นแล้ว มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 110 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกของจังหวัดน่าน หรือที่ละติจูด 18.5 องศาเหนือลองจิจูด 102.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมงกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 18กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคเหนือบริเวณจังหวัดน่านในลำดับ
ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนมากด้านตะวันตกของภาค กับมีลมแรง ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมามีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่
จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่พื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่ม ในบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ขอนแก่นและชัยภูมิ ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ต่อไปอีกในระยะ 1-2 วันนี้ และขอให้ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนอย่างใกล้ชิดต่อไป
ขณะเดียวกันหลังจากที่มีฝนตกตั้งแต่เมื่อวานนี้ (30 ก.ค. ) เวลา 19.00 น. จนกระทั่งขณะนี้ ทำให้มีปริมาณน้ำฝนสะสมบนเทือกเขาในอำเภอเชียงคาน จนกระทั่งเมื่อเวลา 15.00 น.ปริมาณน้ำไหลจากตำบลเขาแก้ว และตำบลธาตุ เข้าท่วมบ้านศรีพัฒนา หมู่ 5 และบ้านจอมศรี หมู่ 8 ต.นาสี อ.เชียงคาน จ.เลย เข้าท่วมนาข้าวกว่า 1,000 ไร่ และ บ่อปลาที่ชาวบ้านเลี้ยงกว่า 100 บ่อ ได้รับความเสียหาย
นอกจากนี้มีชาวบ้านบ้านจอมศรี จำนวน 6 คน ไปยกยอบนเกาะกลางน้ำ หลังจากน้ำป่าไหลเข้าท่วม ทำให้ติดเกาะ เจ้าหน้าที่ อพปร. อส.ตร. ตำบลนาสี และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสว่างคีรีธรรม ได้ช่วยกันนำ เรือไฟเบอร์ เชือก และอุปกรณ์ช่วยชีวิต ช่วยกันลากฝ่ากระแสน้ำไหลเชี่ยว นำออกมาจากเกาะด้วยความปลอดภัย ทั้ง 6 คน
ขณะเดียวกัน กระแสน้ำที่ไหลผ่าน ต.นาสี ได้ไหลเข้าท่วม ตลาดสามแยกบ้านธาตุ หมู่ 2 เทศบาลตำบลธาตุ ต.ธาตุ อ.เชียงคาน ริมถนนสายเลย-เชียงคาน ก.ม.ที่ 20 กระแสน้ำไหลเข้าท่วมร้านค้าที่ขวางทางน้ำ ได้รับความเสียหาย ต่างพากันข้าวของ สินค้า ตลอดจนสัตว์เลี้ยงหนีน้ำกันอย่างโกลาหล แต่สามารถจัญจรไปมาได้ นอกจากนี้กระแสน้ำจำนวนมากยังเอ่อล้นท่วมทาง สายบ้านธาตุ-ปากชม บริเวณก.ม.ที่ 5 บ้านผาพอด หมู่ 13 ต.ธาตุ อ.เชียงคาน จนเส้นทางขาด รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถเดินทางผ่านไปมาได้
นายโสภณ สุวรรณรัตน์ นายอำเภอเชียงคาน กล่าวขณะออกตรวจความเสียหาย ว่า ทางอำเภอ ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ บรรเทาสาธารณภัยของทุก องค์กรปกครองท้องถิ่น ให้เข้าช่วยเหลือราษฎร ที่ได้รับความเดือดร้อน และสำรวจความเสียหาย อย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น และจะได้นำเงินมาชดเชยตามระเบียบทางราชการต่อไป ซึ่งเงินส่วนนี้มีอยู่แล้ว และสามารถเบิกได้ทันที
และขณะนี้ทางอุตุฯรายงานว่าพายุได้พัดผ่านพ้นจังหวัดเลยไปแล้วเข้าสู่จังหวัดน่านแล้ว ถ้าคืนนี้ไม่มีฝนตกมาซ้ำอีก คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติในวันพรุ่งนี้
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น