ฤทธิ์พายุ "นกเตน” อำเภอบ้านแพง นครพนมอ่วมน้ำป่าจากเทือกเขาภูลังกาทะลักกลางดึกบ้านเรือนกว่า 100 หลังจมน้ำนาข้าวนับพันไร่กลายเป็นเมืองบาดาล
วันที่ 31 ก.ค.54 ที่อำเภอบ้านแพงจังหวัดนครพนมหลังเกิดฝนตกหนักทั้งกลางวันกลางคืนด้วยอิทธิพลพายุ”นกเตน”ส่งผลเกิดน้ำป่าทะลักลงมาจากเทือกเขาภูลังกาจำนวนมากเมื่อตอนใกล้สว่างวันนี้
โดยกระแสน้ำไหลหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน ถนน ได้รับความเดือดร้อนนับ 100 หลัง ในหลายหมู่บ้านที่เส้นทางน้ำผ่าน เช่น บ้านไผ่ล้อม ต.ไผ่ล้อม หมู่ 1-5 บ้านพืชผล ต.นางัว โดนน้ำท่วมหนักที่สุดเกิดน้ำท่วมบ้านและถนนรอบหมู่บ้านชาวบ้านต้องขนของหนีน้ำกันกลางดึก
ขณะที่นาข้าวเกษตรกรนับพันไร่ใต้เทือกเขาภูลังกายังจมอยู่ใต้น้ำเนื่องจากน้ำป่าระบายลงสู่น้ำโขงไม่ได้
นางบุญศรี กองทอง ชาวบ้านไผ่ล้อมเปิดเผยว่าหลังเกิดฝนตกหนักทั้งคืนเหตุการณ์น้ำท่วมหมู่บ้านฉับพลันเกิดขึ้นตอน 05.00 น.ใกล้สว่างของคืนวันที่ 31 พวกตนแล้วชาวบ้านหลายครัวเรือนต้องรีบขึ้นมาเก็บข้าวของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องใช้กันอย่างโกลาหลเพราะมีน้ำไหลเข้ามาเต็มใต้ถุนบ้านขณะที่ถนนรอบหมู่บ้านหลายสายจมอยู่ใต้น้ำลึกประมาณ 30-40 ซ.ม.ขณะที่ทุ่งนาใต้เทือกเขาภูลังกากลายเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่
โดยเหตุการณ์ลักษณะนี้จะเกิดขึ้นเกือบทุกปีเมื่อฝนตกหนักน้ำป่าจากเทือกเขาภูลังกาจะทะลักลงมาจากสันเขาเพื่อระบายลงสู่น้ำโขงแต่ระดับน้ำโขงสูงขึ้นจึงระบายลำบากจนทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันคงอีกหลายวันถ้าฝนไม่ตกน้ำคงจะลด ซึ่งในเบื้องต้นชาวบ้านต้องช่วยเหลือตัวเองและเตือนเด็กห้ามเล่นน้ำจุดน้ำเชี่ยววันกระแสน้ำพัดจมน้ำเสียชีวิต
วันที่ 31 ก.ค.54 ที่อำเภอบ้านแพงจังหวัดนครพนมหลังเกิดฝนตกหนักทั้งกลางวันกลางคืนด้วยอิทธิพลพายุ”นกเตน”ส่งผลเกิดน้ำป่าทะลักลงมาจากเทือกเขาภูลังกาจำนวนมากเมื่อตอนใกล้สว่างวันนี้
โดยกระแสน้ำไหลหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน ถนน ได้รับความเดือดร้อนนับ 100 หลัง ในหลายหมู่บ้านที่เส้นทางน้ำผ่าน เช่น บ้านไผ่ล้อม ต.ไผ่ล้อม หมู่ 1-5 บ้านพืชผล ต.นางัว โดนน้ำท่วมหนักที่สุดเกิดน้ำท่วมบ้านและถนนรอบหมู่บ้านชาวบ้านต้องขนของหนีน้ำกันกลางดึก
ขณะที่นาข้าวเกษตรกรนับพันไร่ใต้เทือกเขาภูลังกายังจมอยู่ใต้น้ำเนื่องจากน้ำป่าระบายลงสู่น้ำโขงไม่ได้
นางบุญศรี กองทอง ชาวบ้านไผ่ล้อมเปิดเผยว่าหลังเกิดฝนตกหนักทั้งคืนเหตุการณ์น้ำท่วมหมู่บ้านฉับพลันเกิดขึ้นตอน 05.00 น.ใกล้สว่างของคืนวันที่ 31 พวกตนแล้วชาวบ้านหลายครัวเรือนต้องรีบขึ้นมาเก็บข้าวของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องใช้กันอย่างโกลาหลเพราะมีน้ำไหลเข้ามาเต็มใต้ถุนบ้านขณะที่ถนนรอบหมู่บ้านหลายสายจมอยู่ใต้น้ำลึกประมาณ 30-40 ซ.ม.ขณะที่ทุ่งนาใต้เทือกเขาภูลังกากลายเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่
โดยเหตุการณ์ลักษณะนี้จะเกิดขึ้นเกือบทุกปีเมื่อฝนตกหนักน้ำป่าจากเทือกเขาภูลังกาจะทะลักลงมาจากสันเขาเพื่อระบายลงสู่น้ำโขงแต่ระดับน้ำโขงสูงขึ้นจึงระบายลำบากจนทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันคงอีกหลายวันถ้าฝนไม่ตกน้ำคงจะลด ซึ่งในเบื้องต้นชาวบ้านต้องช่วยเหลือตัวเองและเตือนเด็กห้ามเล่นน้ำจุดน้ำเชี่ยววันกระแสน้ำพัดจมน้ำเสียชีวิต
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น