สุรินทร์ - เจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาล “รพ.พนมดงรัก” อ.พนมดงรัก สุรินทร์ ร่วมทหาร กองทัพภาค 2 ปฏิบัติงานชายแดนปราสาทตาควาย-ตาเมือนธม-ช่องสายสะกู ระดมซ้อมแผนรับมือสถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-เขมร ขณะชาวบ้านแตกตื่นผวาเกิดเหตุปะทะสอบถามวุ่น กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ต้องเร่งชี้แจงทำความเข้าใจ ไม่ต้องอพยพหนีตาย
วันที่ 30 ม.ค.55 เมื่อเวลา 12.30 น.โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ร่วมกับทหารพราน สังกัดชุดเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26, ทหารราบ สังกัดชุดเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) ที่ปฏิบัติงานบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาเมือนธม บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก, ปราสาทตาควาย บ้านไทยนิยมพัฒนา ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พร้อมด้วย ชุดเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 26 กกล.สุรนารี ทภ.2 ที่ปฏิบัติงานบริเวณชายแดน ด้าน ช่องชายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์
ได้ทำการซ้อมแผนเตรียมความพร้อมทางการแพทย์รับสถานการณ์ปะทะตามแนว ชายไทย-กัมพูชา ตลอดแนวชายแดนพื้นที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ และ บางส่วนของ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ใกล้โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จุดรับผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจุดแรก ก่อนทำการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่ใกล้เคียง
โดยมี นพ.อภิสันต์ บุญประดับ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา และ พ.อ.ธรากร ธรรมวินทร รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ควบคุมการปฏิบัติการซ้อมแผนรับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การปฏิบัติการรับผู้ป่วย การคัดกรองผู้ป่วย การตรวจรักษา และการส่งต่อผู้ป่วย ด้วยเฮลิคอปเตอร์ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว
ทั้งนี้ การซ้อมแผนรับสถานการณ์ชายแดนครั้งนี้ ได้กำหนดพื้นที่การปะทะทางทหารตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บริเวณปราสาทตาควาย, ปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ และที่บริเวณช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ โดยหน่วยทหารที่จัดชุดปฏิบัติการทหารได้รับลำเลียงทหารที่ได้รับบาดเจ็บ จากบริเวณแนวปะทะด้วยรถยนต์มาส่งรักษาตัวเบื้องต้น ที่โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ซึ่งทางทีมแพทย์ พยาบาล บุคลากร ทางการแพทย์ ได้เตรียมพร้อมทุกด้านเพื่อให้การช่วยชีวิตทหารที่ได้รับบาดเจ็บ และ กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ได้จัดเฮลิคอปเตอร์ไว้ลำเลียง ผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่งต่อไปเข้ารับการรักษา ที่โรงพยาบาลใกล้เคียง และโรงพยาบาลที่มีเครื่องทางการแพทย์ที่ทันสมัย ได้อย่างรวดเร็ว
การซ้อมแผนรับสถานการณ์ชายแดนในครั้งนี้ แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ทหารพราน ทหารราบ จะได้รับประสบการณ์ เพื่อนำไปปฏิบัติ หากเกิดสถานการณ์ขึ้นจริงต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขณะที่มีการซ้อมแผนรับสถานการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ดังกล่าว ปรากฏว่า มีประชาชนชาว อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ที่ได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ ของทหารขึ้นลง บริเวณหน้าที่ว่าการอ.พนมดงรัก เป็นจำนวนมาก จึงพากันตกใจ คิดว่า เกิดเหตุปะทะขึ้นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ได้มีการสอบถามมายังเจ้าหน้าที่ที่ว่าอำเภอพนมดงรักจำนวนมาก ทำให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องเร่งชี้แจ้งให้ประชาชน เข้าใจว่า เป็นการซ้อมแผนรับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาเท่านั้น ไม่ต้องพากันแตกตื่นตกใจหรือเตรียมพร้อมอพยพหนีภัยสงครามแต่อย่างใด
วันที่ 30 ม.ค.55 เมื่อเวลา 12.30 น.โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ร่วมกับทหารพราน สังกัดชุดเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26, ทหารราบ สังกัดชุดเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) ที่ปฏิบัติงานบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาเมือนธม บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก, ปราสาทตาควาย บ้านไทยนิยมพัฒนา ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พร้อมด้วย ชุดเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 26 กกล.สุรนารี ทภ.2 ที่ปฏิบัติงานบริเวณชายแดน ด้าน ช่องชายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์
ได้ทำการซ้อมแผนเตรียมความพร้อมทางการแพทย์รับสถานการณ์ปะทะตามแนว ชายไทย-กัมพูชา ตลอดแนวชายแดนพื้นที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ และ บางส่วนของ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ใกล้โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จุดรับผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจุดแรก ก่อนทำการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่ใกล้เคียง
โดยมี นพ.อภิสันต์ บุญประดับ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา และ พ.อ.ธรากร ธรรมวินทร รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ควบคุมการปฏิบัติการซ้อมแผนรับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การปฏิบัติการรับผู้ป่วย การคัดกรองผู้ป่วย การตรวจรักษา และการส่งต่อผู้ป่วย ด้วยเฮลิคอปเตอร์ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว
ทั้งนี้ การซ้อมแผนรับสถานการณ์ชายแดนครั้งนี้ ได้กำหนดพื้นที่การปะทะทางทหารตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บริเวณปราสาทตาควาย, ปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ และที่บริเวณช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ โดยหน่วยทหารที่จัดชุดปฏิบัติการทหารได้รับลำเลียงทหารที่ได้รับบาดเจ็บ จากบริเวณแนวปะทะด้วยรถยนต์มาส่งรักษาตัวเบื้องต้น ที่โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ซึ่งทางทีมแพทย์ พยาบาล บุคลากร ทางการแพทย์ ได้เตรียมพร้อมทุกด้านเพื่อให้การช่วยชีวิตทหารที่ได้รับบาดเจ็บ และ กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ได้จัดเฮลิคอปเตอร์ไว้ลำเลียง ผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่งต่อไปเข้ารับการรักษา ที่โรงพยาบาลใกล้เคียง และโรงพยาบาลที่มีเครื่องทางการแพทย์ที่ทันสมัย ได้อย่างรวดเร็ว
การซ้อมแผนรับสถานการณ์ชายแดนในครั้งนี้ แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ทหารพราน ทหารราบ จะได้รับประสบการณ์ เพื่อนำไปปฏิบัติ หากเกิดสถานการณ์ขึ้นจริงต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขณะที่มีการซ้อมแผนรับสถานการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ดังกล่าว ปรากฏว่า มีประชาชนชาว อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ที่ได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ ของทหารขึ้นลง บริเวณหน้าที่ว่าการอ.พนมดงรัก เป็นจำนวนมาก จึงพากันตกใจ คิดว่า เกิดเหตุปะทะขึ้นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ได้มีการสอบถามมายังเจ้าหน้าที่ที่ว่าอำเภอพนมดงรักจำนวนมาก ทำให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องเร่งชี้แจ้งให้ประชาชน เข้าใจว่า เป็นการซ้อมแผนรับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาเท่านั้น ไม่ต้องพากันแตกตื่นตกใจหรือเตรียมพร้อมอพยพหนีภัยสงครามแต่อย่างใด
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น