วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2555

“คนโคราช” ระดมพลครั้งใหญ่ 1 ก.พ.ต้าน “นิติราษฎร์” ดื้อแก้ ม.112

องค์กรคนโคราชรักในหลวงมีมติระดมพลังครั้งใหญ่ 1 ก.พ.นี้ เดินขบวนจากสวนภูมิรักษ์-สวายเรียง ไปลานย่าโม คัดค้าน กลุ่มนิติราษฎร์ยังดื้อแก้มาตรา 112 พร้อมยื่นแถลงการณ์ถึงผู้ว่าฯ แสดงจุดยืนไปถึงรัฐบาล สร้างความรู้ความเข้าใจให้ประชาชน      
       
ตามที่กลุ่มนิติราษฎร์ ซึ่งประกอบไปด้วยผู้ที่มีความรู้ในระดับอาจารย์หลายคน นำโดยนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกมาเคลื่อนไหวเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ว่าด้วยการหมิ่นเบื้องสูง คุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย โดยมีสาระสำคัญ คือ 1. ให้ยกเลิกมาตรา 112 ออกจากลักษณะว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของราชอาณาจักร 2. เพิ่มหมวดลักษณะความผิดเกี่ยวกับพระเกียรติของพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และเกียรติยศผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ 3. แบ่งแยกการคุ้มครองสำหรับตำแหน่งพระมหากษัตริย์ออกจากการคุ้มครอง สำหรับตำแหน่งพระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
      
       4. เปลี่ยนบทกำหนดโทษ โดยไม่มีอัตราโทษขั้นต่ำ แต่กำหนดเพดานโทษสูงสุดจำคุกไม่เกินสามปี สำหรับการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ และไม่เกินสองปีสำหรับพระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ 5. เพิ่มเหตุยกเว้นความผิด กรณีแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต 6. เพิ่มเหตุยกเว้นโทษ กรณีข้อความที่กล่าวหานั้นได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นความจริง และการพิสูจน์นั้นเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ และ 7. ห้ามบุคคลทั่วไปกล่าวโทษผู้ที่ทำความผิด ให้สำนักราชเลขาธิการมีอำนาจเป็นผู้กล่าวโทษเท่านั้นแทนพระองค์ ทำให้มีกลุ่มองค์กรต่างๆ ทั่วประเทศรวมพลังออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านเพื่อให้กลุ่มนิติราษฎร์ยุติการ กระทำดังกล่าว
      
       หลังจากนั้น องค์กรคนโคราชรักในหลวง ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 1/2555 เรื่อง ปกป้องรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ หยุดแก้มาตรา 112 หยุดละเมิดพระราชอำนาจของกลุ่มนิติราษฎร์ เมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา โดยแสดงเจตนารมณ์เรียกร้องให้กลุ่มนิติราษฎร์ และบุคคลบางกลุ่มที่มีความพยายามละเมิดพระราชอำนาจ โดยเฉพาะการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หยุดการกระทำดังกล่าวโดยทันที และขอเรียกร้องให้รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย แสดงจุดยืนที่จะไม่ก้าวล่วงมาตราดังกล่าว รวมทั้งพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ถึงขณะนี้กลุ่มนิติราษฎร์ก็ยังผลักดันเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 112 อยู่
      
       ประชุมแนวร่วมเคลื่อนไหวใหญ่
      
       ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 30 มกราคม 2555 ณ โรงแรมปัญจดารา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา องค์กรคนโคราชรักในหลวง นำโดยนายสุนทร จันทร์รังสี สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 (ส.ส.ร.50) ประชุมแนวร่วมจากองค์กรต่างๆ ในจังหวัดนครราชสีมาเกือบ 20 คน อาทิ นายจีระศักดิ์ คาระวิวัฒนา ประธานสมาพันธ์สื่อมวลชนพันธมิตรแห่งนครราชสีมา, นายประเมธ เพราะพินิจ ประธานมูลนิธินักข่าวนครราชสีมา นายสุพจน์ พิริยะเกียรติสกุล ในฐานะที่ปรึกษาพันธมิตรโคราช อีกทั้งแนวร่วมในนามบุคคล อาทิ นายจักริน เชิดฉาย เจ้าของหมอยาพลาซ่า และประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา, นายณัฐปคัลภ์ กล้าหาญ คณะกรรมการหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา, นายอรชัย ปุณณะนิธิ ผู้บริหารโรงแรมปัญจดารา และประธานมูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา (ฮุก 31), นายกำปั่น บ้านแท่น ศิลปินเพลงพื้นบ้านโคราช และนายประเทศ อุตมบูรณะ อดีตปลัดจังหวัดยโสธร และอดีตประธานกกต.ยโสธร เพื่อออกมาเดินขบวนเคลื่อนไหวคัดค้านการกระทำของกลุ่มนิติราษฎร์ ในวันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ โดยมีข้ราชการฝ่ายปกครองและฝ่ายความมั่นคง ร่วมสังเกตการณ์นอกเครื่องแบบด้วย
      
       เป้าหมายระดมพลัง 5 พันคน
      
       นายสุนทร จันทร์รังสี สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 และผู้นำการประชุม กล่าวว่า หลังจากองค์กรคนโคราชรักในหลวงเคลื่อนไหวออกแถลงการณ์ให้กลุ่มนิติราษฎร์ หยุดการกระทำจาบจ้วง แต่กลุ่มนิติราษฎร์ยังยืนยันจะกระทำการระคายเคืองเบื้องยุคลบาทต่อไป โดยไม่สำนึกไม่ยำเกรง จึงมีเสียงตอบรับสนับสนุนดีมากจากประชาชนหลายภาคส่วนในโคราช และอยากให้จัดกิจกรรมเคลื่อนไหวใหญ่เพื่อคัดค้านกลุ่มนิติราษฎร์อีกครั้ง ในวันนี้จึงจัดประชุมหารือแนวร่วมจากองค์กรต่างๆ ในจังหวัดนครราชสีมา รวมทั้งแนวร่วมในนามบุคคล เพื่อแสดงพลังคนโคราชที่รักและเทิดทูนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านกลุ่มนิติราษฎร์อย่างหนัก จำนวนประมาณ 3,000 คนขึ้นไป และตั้งเป้าหมายการรวมตัวครั้งนี้ให้ได้ถึง 5,000 คน
      
       ต้องแสดงจุดยืนยับยั้ง นิติราษฎร์
      
       สำหรับการเคลื่อนไหวในนามองค์กรคนโคราชรักในหลวงครั้งนี้ นายสุนทรกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับการเมือง ไม่เกี่ยวกับสีใดทั้งสิ้น เป็นการเคลื่อนไหวขององค์กรภาคประชาชนแบบอารยชน เหตุที่ต้องออกมาเคลื่อนไหวก็เหมือนกับเหล็กที่ต้องตีตอนร้อน บางคนบอกว่าไม่ต้องออกมาเคลื่อนไหวหรอก เพราะกลุ่มนิติราษฎร์ได้ยุติแล้ว แต่ข่าวล่าสุดในวันนี้กลุ่มนิติราษฎร์ยังประกาศยืนยันจะเดินหน้าแก้ไขประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 122 ต่อไป
      
       “ผมคิดว่าเราต้องแสดงจุดยืนที่เด่นชัดของคนโคราช อย่างน้อยเป็นจังหวัดใหญ่ที่สุดเพื่อให้กลุ่มนิติราษฎร์ได้รับรู้ว่ามีคน จำนวนมากที่ต่อต้านและไม่เห็นดีด้วย ซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะเคลื่อนไหวแบบสันติของผู้ที่เจริญแล้ว ไม่ท้าตีท้าต่อยกับใครทั้งนั้นและไม่ป่วนเมือง ผมเชื่อว่ายิ่งมีการแสดงพลังคนโคราชที่รักและเทิดทูนพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวมากเท่าไหร่ กลุ่มนิติราษฎร์ก็จะฝ่อไป จากที่คิดว่าโคราช หรือขอนแก่น เป็นถิ่นหรือเป็นดินแดนของเขาๆ จะได้ชะงักไปบ้าง ผมอยากจะเปรียบว่าเป็นเหมือนเขามาโยกฟันโยกสถานะของพระองค์ วันนี้เขายังถอนไม่ได้หรอก บางท่านอาจจะคิดประมาทว่าสถาบันนี้ยังอยู่ แต่เป็นการโยกฟันให้คลอน คลอนไปคลอนมาเดี๋ยวก็หลุดไป ถ้าเราใจเย็นในชั่วชีวิตเราอาจจะพบกับความเสียใจ โดยที่เรามัวแต่ใจเย็นและไม่ได้ทำอะไรเลย
      
       สงวนสิทธิ์ ห้ามใช้เป็นเวทีการเมือง
      
       ในช่วงการเปิดให้แสดงความคิดเห็นที่จะนำมาซึ่งการเคลื่อนไหวใหญ่ของ องค์กรคนโคราชรักในหลวง นายจักริน เชิดฉาย เจ้าของหมอยาพลาซ่า และประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ต้องมีจุดยืนที่ชัดเจน ไม่พูดเรื่องรัฐบาล หรือพรรคใดพรรคหนึ่ง ที่มีความเห็นแตกต่างกัน แม้บางท่านจะไม่เห็นด้วยกับพรรคใดพรรคหนึ่ง ไม่เช่นนั้นจะทำให้การเคลื่อนไหวเสียหาย ข้อสำคัญคือห้ามใช้เวทีนี้เป็นประเด็นของสี หรือของการเมือง แต่ให้เคลื่อนไหวเฉพาะการจงรักภักดีและเทิดทูนในหลวงเท่านั้น อย่างอื่นผมขอให้สงวนสิทธิ์
      
       ชี้อาจารย์ไทยขาดสมรรถนะ
      
       ขณะที่ นายประเทศ อุตมบูรณะ อดีตปลัดจังหวัดยโสธร และอดีตประธานกกต.ยโสธร ซึ่งเป็นชาวโคราช แสดงความคิดเห็นว่าความจริงผมก็ศึกษาอาจารย์ในมหาวิทยาลัยมาตลอด ผมมีความคิดว่าการสอนในมหาวิทยาลัยทุกวันนี้ อาจารย์ที่มาสอนเอาคนที่เรียนจบมาอย่างเดียว แต่ขาดคำว่าสมรรถนะ คือ สิ่งที่ติดตัวคนมาในเรื่องขององค์ความรู้ ประสบการณ์ วิสัยทัศน์ กระบวนทัศน์ กระบวนทักษะต่างๆ ไม่มี อ้างอิงแต่จากของต่างประเทศ เพราะฉะนั้น อาจารย์ในมหาวิทยาลัยทุกวันนี้ ซึ่งทำหน้าที่ผลิตทรัพยากรมนุษย์ที่เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า ไม่ได้เอาคนที่มีความรู้ความสามารถมาผลิต แต่เลือกเอาคนที่ขาดสมรรถนะ โดยเฉพาะประเด็นการห้ามในหลวงแสดงวิสัยทัศน์ในที่สาธารณะแค่นี้ก็ผิดแล้ว เพราะว่าเป็นแนวความคิดของยุโรป อย่างในประเทศอังกฤษมันไม่มีในรัฐธรรมนูญหรอก แต่มีในรัฐธรรมนูญที่ตกลงกันว่า ในเมื่อในหลวงท่านทรงแต่งตั้ง House of Lord (สภาขุนนาง) ขึ้นมา เพราะฉะนั้น การแสดงวิสัยทัศน์ของ House of Lord จะต้องให้เป็นแนวเดียวกันกับของรัฐบาล จึงแตกต่างกับประเทศไทยในเรื่องเกี่ยวกับคุณภาพสภาและประชาชน และเวลานี้เราไม่รู้เลยว่าคุณงามความดีของพระเจ้าแผ่นดินคืออะไร นับตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน
      
       ทหารสีขาวสำนึกพระกรุณาธิคุณ
      
       ด้าน นายกำปั่น บ้านแท่น ศิลปินพื้นบ้านเพลงโคราช กล่าวว่า ผมขอเล่าประสบการณ์ ทุกครั้งก่อนที่จะถึงวันที่ 5 ธันวาคม ไม่ว่าจะเป็นประชาชน ทหารจากกองทัพภาคที่ 2 เขาจะมีการบวชเพื่อนำมหาบุญ มหากุศล น้อมถวายในหลวง ผมได้รับโอกาสให้เป็นผู้ไปทำพิธีเรียกขวัญนาค เพื่อให้นึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในหลวง พระราชกรณียกิจของพระองค์ทำเพื่อพสกนิกร เสโททุกหยดหยาด กลางคืนพระองค์ทรงไม่ได้บรรทม ต้องให้คนไทยนอนหลับ มีความสุข พระมหากษัตริย์ทรงตื่นอยู่ตลอดเวลา ครั้งหนึ่งขณะทำพิธีเรียกขวัญนาค กลุ่มนิติราษฎร์กำลังเหิมเกริมอย่างหนัก มีท่านแม่ทัพภาคที่ 2 (พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร) และเหล่าทหารได้นั่งฟังกันเยอะ ผมก็บังเอิญสอดแทรกคำแหล่สอดแทรกไปเพื่อเทิดทูนพระมหากษัตริย์ว่าพวกเราบวชตั้งใจบวชเพื่อถวายในหลวง แต่ทุกท่านรู้ไหมว่า มีกลุ่มพวกหนึ่งกำลังคิดไม่ดี ให้ร้ายกับพระองค์ท่าน ขณะที่พวกเรากำลังทำความดี อีกกลุ่มหนึ่งกำลังทำความชั่ว พวกเราจะทำอย่างไร?” ทุกคนนั่งฟังเงียบกริบ ไม่นานผมเห็นไปติดป้ายภายในกองทัพภาคที่ 2 ว่า ทหารสีขาว
      
       “หลายสิ่งหลายอย่างผมอยากตะโกนกู่ร้องให้คนโคราชได้ทราบว่า พวกเราจะนั่งเฉยเมยกันอยู่กระไรได้ ในเมื่อราชบัลลังก์กำลังถูกพวกชั่วช้าสามานย์ที่ไม่รู้คุณค่าของพระมหา กษัตริย์ มันจะพยายามคิดที่จะเอาแบบอย่างต่างประเทศตะวันตก ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีพื้นฐานความเป็นอยู่ต่างกัน สหรัฐอเมริกาไม่มีใครเป็นวีรบุรุษ เยอรมนีไม่มีใครเป็นวีรบุรุษ ประเทศไทยเราต่างหากที่มีพระมหากษัตริย์เป็นวีรบุรุษ พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ขึ้นต่อสู้บนหลังช้างในการศึกษา ถึงแม้รัชกาลที่ 9 ไม่มีศึกสงคราม แต่สงครามกับความลำบากยากจน พระองค์ทรงต่อสู้หนักยิ่งกว่าสงครามจากภายนอกอีก พวกนิติราษฎร์ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ไปเอาขนบธรรมเนียมประเพณีของชาติอื่นที่มันเหมาะสำหรับประเทศเขามาใช้ มาเหยียบย่ำหัวใจคนไทยเรานายกำปั่นกล่าวย้ำ
      
       1 ก.พ.เคลื่อนไหวใหญ่ นัดรวมพลสวนภูมิรักษ์ ก่อนเดินสู่ลานย่าโม
      
       สำหรับการเคลื่อนไหวใหญ่เพื่อคัดค้านการกระทำของกลุ่มนิติราษฎร์ ในนาม องค์กรคนโคราชรักในหลวงในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ ข้อสรุปจากที่ประชุมกำหนดให้ระดมพลังคนโคราชที่รักและเทิดทูนพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว จำนวนตั้งแต่ 1,000 คนขึ้นไปจากภาคส่วนต่างๆ มารวมตัวพร้อมกันเวลา 15.00 น. โดยเบื้องต้นนัดพบกันที่หน้าค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ก่อนจะเคลื่อนขบวนในเวลา 16.30 น. ไปตามถนนราชดำเนิน และไปสิ้นสุดที่บริเวณลานหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) เพื่อแสดงเจตนารมณ์พร้อมทั้งอ่านแถลงการณ์ และมอบแถลงการณ์ต่อนายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ส่งผ่านไปยังรัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยจะมีการสร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชน ด้วยการแจกแผ่นพับเกี่ยวกับการกระทำของกลุ่มนิติราษฎร์ในขณะนี้ ซึ่งเป็นเรื่องไม่บังควรละเมิดพระราชอำนาจ และประชาชนบนผืนแผ่นดินไทยต้องออกมาปกป้องรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ให้คง อยู่สืบไป
      
       อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นายสุนทร จันทรังสี แจ้งว่า หลังจากได้ความเห็นชอบด่วนจากกรรมการที่ติดต่อได้ในเวลากะทันหัน ได้มีความเห็นพ้องที่จะย้ายจุดรวมพลไปที่สวนภูมิรักษ์ (มงคลนาม) สวายเรียง แล้วเดินตรงมาบนถนนโพธิ์กลางตรงไปยังลานย่าโม เหตุผลสำคัญที่ได้รับความเห็นชอบส่วนใหญ่แล้ว คือ 1. ระยะทางไม่สั้นไม่ยาวกำลังดี 2. พ่อค้าประชาชนทั่วไปจะมีส่วนร่วมได้มากกว่าเดินจากค่ายสุรนารี จึงขอเรียนมาให้ทราบเพื่อยึดถือปฏิบัติร่วมกันและโปรดให้อภัยในมติครั้งแรก ด้วย
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น