วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ยายวัย 62 แจ้งจับ ผญบ.หลอกเซ็นเอกสารรับชดเชยน้ำท่วม แต่เชิดโฉนดจำนำนายทุน

อุดรธานี - ยายวัย 62 ปี เข้าแจ้งความถูกผู้ใหญ่บ้านหลอกให้เซ็นเอกสารรับเงินชดเชยน้ำท่วมนา แต่กลับนำโฉนดที่ดินไปจำนำกับนายทุน ทวงถามบ่ายเบี่ยงไม่ยอมคืนโฉนด ซ้ำนำที่ดินกว่าไร่ไปเวียนจำนำนายทุนรายใหม่ต่อ สุดทนเข้าแจ้งความหวังให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วย
      
       
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสกุล สระแก้ว อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 3 บ้านถ่อนน้อย ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมด้วยลูกสาว นางวิไลวัน โสตาศิริ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 451 หมู่5 ต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.บำรุง แนบชิดชัย สารวัตร สภ.เมืองอุดรธานี ว่าถูกนายอาคม แฝงฤทธิ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านถ่อนน้อย ต.นาข่า อ.เมือง อุดรธานี หลอกให้เซ็นเอกสารรับเงินค่าชดเชยกรณีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายจาก น้ำท่วม
      
       นางสกุลเปิดเผยว่า เมื่อประมาณ 4 ปีที่ผ่านมา นายอาคม แฝงฤทธิ์ ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวเคยเดือดร้อนเรื่องเงิน จึงได้มาขอเช่าโฉนดที่นาของตนจำนวน 4 ไร่ 1 งาน 40 ตารางวา ไปจำนำ กับนายทุนในจำนวน 6 หมื่นบาท เมื่อทวงถามก็ได้คำตอบว่าได้จ่ายเงินผ่อนชำระค่าจำนำให้แล้ว แต่พบครบกำหนดจำนำ ปรากฏว่านายอาคมไม่ได้ชำระตามที่บอก ทำให้มียอดเงินที่ต้องจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยกับนายทุนเป็นเงินจำนวน 1 แสน 3 หมื่นบาท ซึ่งนายอาคมอ้างว่ายังไม่มีเงินที่จะไปไถ่ถอนให้ จึงได้หานายทุนคนใหม่ซึ่งเป็นทนายความมาไถ่ที่นาตนไป
      
       นางสกุลเล่าต่อว่า นายอาคมได้รับปากว่าจะผ่อนจ่ายเงินให้แก่นายทุนที่เป็นทนายความที่ไถ่ที่นา ตนให้ แต่จนกระทั่งเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา นายอาคมก็เอาเอกสารมาหาให้ตนเซ็น บอกว่ารัฐบาลจะมาจ่ายเงินค่าชดเชยน้ำท่วมที่นา โดยอ้างว่าตนและชาวบ้านอีก 3-4 รายยังมีรายชื่อตกหล่นที่จะได้รับเงินค่าชดเชยน้ำท่วมที่นา ตนเองได้หลงเชื่อจึงได้เซ็นเอกสารดังกล่าวให้แต่ไม่รู้ว่าเป็นเอกสารอะไร
      
       ต่อมาตนได้สอบถามเรื่องดังกล่าวกับทาง อบต. ทาง อบต.ยืนยันว่าไม่รู้เรื่อง ตนจึงได้ไปปรึกษาลูกสาว และได้พากันไปหาทนายความที่เป็นนายทุน และทราบว่าผู้ใหญ่บ้านได้มาไถ่ที่นาไปแล้ว
      
       จากนั้นตนและสาวลูกจึงได้ไปสำนักงานที่ดินจังหวัดอุดรธานี และทราบว่าผู้ใหญ่บ้านได้เอาที่นาของตนไปจำนำกับนายทุนคนใหม่ เป็นเงินจำนวน 2 แสน 3 หมื่น 1 พันบาท ตนจึงต้องมาแจ้งความดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
      
       อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของผู้ใหญ่บ้าน แต่ปรากฏว่าผู้ใหญ่บ้านไม่อยู่ และเมื่อพยายาติดต่อทางโทรศัพท์มือถือก็ไม่สามารถติดต่อได้
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น