นครพนม -ผู้ว่าฯนครพนมเปิดโครงการจัดหาบ้านใหม่อบอุ่นเพื่อน้องหมา เชิญผู้ใจบุญขอสุนัขไปเลี้ยงทางรอดทางเดียวของสุนัขที่ด่านกักกันสัตว์ นครพนม ประเดิมล็อตแรกมีผู้ขอไปเลี้ยงกว่า 100 ตัว ชาวบ้านชี้ใช้เทคนิคภูมิปัญญาท้องถิ่น”ฝึกเป็นหมาพรานล่าสัตว์” นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการจับกุมขบวนการค้าสุนัขข้ามชาติเมื่อคืนวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ในเขตพื้นที่อำเภอนาทม รอยต่ออำเภอบ้านแพง พร้อมช่วยเหลือสุนัขมีชีวิตจำนวน 1,011 ตัว ก่อนที่จะถูกลำเลียงข้ามโขงไปประเทศเพื่อนบ้าน โดยปลายทางสุนัขเหล่านี้จะถูกเชือดเป็นอาหารที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งปฏิบัติการครั้งนั้นได้ช่วยชีวิตสุนัขรอดตายมาได้ และในส่วนการดำนินคดีทางกฎหมายนั้น ศาลนครพนมได้ตัดสินจำคุกผู้ต้องหาเป็นที่เรียบร้อย
นายเริงศักดิ์ ระบุว่า สุนัขทั้งหมดที่ตรวจยึดครั้งนั้นได้นำมาเลี้ยงดูฟื้นฟูสุขภาพที่ด่านกักกัน สัตว์จังหวัดนครพนม โดยมีประชาชนผู้รักสัตว์ทั่วประเทศทราบข่าวได้บริจาคอาหารและเงินสดเพื่อ เลี้ยงดูสุนัขมากกว่า 20 ล้านบาท โดยเงินบริจาคดังกล่าวนั้นมีการตั้งคณะกรรมการควบคุมและเบิกจ่ายในการดูแล เลี้ยงสุนัขเหล่านี้อย่างเป็นระบบ ซึ่งขั้นตอนนี้ตนมองว่าเป็นการดูแลสุนัขให้มีความสุขในระดับหนึ่งเท่านั้น โดยการทำให้ดีที่สุด
"แต่ความสุขที่แท้จริงของสุนัขหรือน้องหมาเหล่านี้ คือ ต้องส่งเขากลับคืนสู่ธรรมชาติของเขาให้เขาและมีเจ้าของที่ให้ความรักความ อบอุ่น พวกเขาต้องได้วิ่งเล่นตามหมู่บ้านหยอกล้อกัน หรือวิ่งตามเจ้าของหรือเพื่อนๆ หมาด้วยกันออกไปตามท้องไร่ท้องนาไปไร่ไปสวน นี่คือวิถีชีวิตของน้องหมาเหล่านี้ เพราะชีวิตของพวกเขาที่ผ่านมาขาดหายไปตรงจุดนี้”
นายเริงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทางจังหวัดนครพนมและหลายภาคส่วนต้องการเติมเต็มความสุขตรงนี้ให้น้องหมาหลัง รอดตายมาอย่างหวุดหวิด และถือว่าเป็นบุญกุศลที่เรามาร่วมกัน ถึงแม้วันนี้เราจะดูแลเขาดีขนาดไหนมันก็ไม่ใช่เพราะพวกเขายังถูกขังอยู่ใน คอกอยู่ดี
นายเริงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในการส่งสุนัขเหล่านี้คืนสู่วิถีธรรมชาติ ทางจังหวัดจึงได้เปิด ”โครงการจัดหาบ้านใหม่ที่อบอุ่นเพื่อน้องหมา” ขึ้น โดยเปิดโอกาสและเชิญชวนให้ประชาชนผู้ใจบุญมีจิตใจรักสุนัขมาขอสุนัขที่เรา เลี้ยงดูอยู่เพื่อนำไปเลี้ยงที่บ้านและเป็นเจ้าของสุนัขโดยตรงพร้อมกับมี ความรักให้กับสุนัขด้วย และเป็นเรื่องที่น่ายินดี คือ โครงการนี้เปิดตัวเมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมาได้มีประชาชนชาวอำเภอปลาปากและชาวอำเภอนาแก รวม 110 ราย เป็นอันว่าสุนัขจำนวนนี้มีเจ้าของที่แท้จริงแล้วและเชิญชวนชาวบ้านมาขอรับ สุนัขไปเลี้ยงได้ตลอดเวลา โดยติดต่อกับสำนักงานปศุสัตว์นครพนมหรือด่านกักกันสัตว์และต้องผ่านการตรวจ สอบจะนำสุนัขไปเลี้ยงจริงๆ
ด้านนายไพรัตน์ ประทุมสุวรรณ ปศุสัตว์นครพนม เปิดเผยว่า คนที่มาขอรับสุนัขไปเลี้ยงต้องนำบัตรประชาชนสำเนาทะเบียนบ้านมายื่นขอสุนัข และสุนัขที่เรามอบให้จะผ่านการรับรองสุขภาพจากทีมสัตวแพทย์มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรงฉีดวัคซีนติดเครื่องหมายประจำตัวพร้อมใบรับรองประวัติครบถ้วน ถ้าสุนัขเสียชีวิตหรือสูญหายผู้เลี้ยงต้องแจ้งให้สำนักงานทราบ
ลุงดำ จันทะลา อายุ 55 ปี ชาวบ้านกอกอำเภอปลาปากกล่าวว่า ที่บ้านตนมีสุนัข 1 ตัววันนี้ก็มาขอสุนัขไปเลี้ยง 1 ตัว ให้เป็นเพื่อนกันเวลาเข้าป่าออกทุ่งไร่ทุ่งนาซึ่งสุนัขตนที่บ้านมันจะถูกฝึก เป็น "หมาพราน” และสุนัขที่ตนมาขอก็จะฝึกเป็นหมาพรานเช่นกัน โดยสุนัขพรานสัญชาตญาณมันจะแตกต่างกับสุนัขบ้านทั่วไปมันจะเป็นสุนัขนักล่า สัตว์ป่า เช่น งู หนูฯลฯ ชาวบ้านที่อยู่ติดป่าหรือใต้เชิงเขาจะเลี้ยงกันมาก เมื่อเราเข้าป่าหมาพรานมันจะวิ่งล่วงหน้าไปก่อนมันเห็นสัตว์อะไรมันก็จะเห่า เรียกเจ้าของไปหาบางทีมันก็กัดสัตว์เหล่านั้นก็จะเป็นทั้งอาหารในครัวเรือน และตัวมันด้วย
"สุนัขที่เราขอไปเลี้ยงฝึกเป็นสุนัขพรานก็ไม่ยาก สุนัขทุกตัวมันจะมีสัญชาตญาณของมัน แค่เราปล่อยและพามันไปเข้าป่ากับเพื่อนสุนัขพราน มันก็จะปรับตัวเป็นสุนัขพรานไปด้วยขนาดคนยังมีครูสุนัขมันก็ต้องมีครูเช่น กัน”
นายเริงศักดิ์ ระบุว่า สุนัขทั้งหมดที่ตรวจยึดครั้งนั้นได้นำมาเลี้ยงดูฟื้นฟูสุขภาพที่ด่านกักกัน สัตว์จังหวัดนครพนม โดยมีประชาชนผู้รักสัตว์ทั่วประเทศทราบข่าวได้บริจาคอาหารและเงินสดเพื่อ เลี้ยงดูสุนัขมากกว่า 20 ล้านบาท โดยเงินบริจาคดังกล่าวนั้นมีการตั้งคณะกรรมการควบคุมและเบิกจ่ายในการดูแล เลี้ยงสุนัขเหล่านี้อย่างเป็นระบบ ซึ่งขั้นตอนนี้ตนมองว่าเป็นการดูแลสุนัขให้มีความสุขในระดับหนึ่งเท่านั้น โดยการทำให้ดีที่สุด
"แต่ความสุขที่แท้จริงของสุนัขหรือน้องหมาเหล่านี้ คือ ต้องส่งเขากลับคืนสู่ธรรมชาติของเขาให้เขาและมีเจ้าของที่ให้ความรักความ อบอุ่น พวกเขาต้องได้วิ่งเล่นตามหมู่บ้านหยอกล้อกัน หรือวิ่งตามเจ้าของหรือเพื่อนๆ หมาด้วยกันออกไปตามท้องไร่ท้องนาไปไร่ไปสวน นี่คือวิถีชีวิตของน้องหมาเหล่านี้ เพราะชีวิตของพวกเขาที่ผ่านมาขาดหายไปตรงจุดนี้”
นายเริงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทางจังหวัดนครพนมและหลายภาคส่วนต้องการเติมเต็มความสุขตรงนี้ให้น้องหมาหลัง รอดตายมาอย่างหวุดหวิด และถือว่าเป็นบุญกุศลที่เรามาร่วมกัน ถึงแม้วันนี้เราจะดูแลเขาดีขนาดไหนมันก็ไม่ใช่เพราะพวกเขายังถูกขังอยู่ใน คอกอยู่ดี
นายเริงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในการส่งสุนัขเหล่านี้คืนสู่วิถีธรรมชาติ ทางจังหวัดจึงได้เปิด ”โครงการจัดหาบ้านใหม่ที่อบอุ่นเพื่อน้องหมา” ขึ้น โดยเปิดโอกาสและเชิญชวนให้ประชาชนผู้ใจบุญมีจิตใจรักสุนัขมาขอสุนัขที่เรา เลี้ยงดูอยู่เพื่อนำไปเลี้ยงที่บ้านและเป็นเจ้าของสุนัขโดยตรงพร้อมกับมี ความรักให้กับสุนัขด้วย และเป็นเรื่องที่น่ายินดี คือ โครงการนี้เปิดตัวเมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมาได้มีประชาชนชาวอำเภอปลาปากและชาวอำเภอนาแก รวม 110 ราย เป็นอันว่าสุนัขจำนวนนี้มีเจ้าของที่แท้จริงแล้วและเชิญชวนชาวบ้านมาขอรับ สุนัขไปเลี้ยงได้ตลอดเวลา โดยติดต่อกับสำนักงานปศุสัตว์นครพนมหรือด่านกักกันสัตว์และต้องผ่านการตรวจ สอบจะนำสุนัขไปเลี้ยงจริงๆ
ด้านนายไพรัตน์ ประทุมสุวรรณ ปศุสัตว์นครพนม เปิดเผยว่า คนที่มาขอรับสุนัขไปเลี้ยงต้องนำบัตรประชาชนสำเนาทะเบียนบ้านมายื่นขอสุนัข และสุนัขที่เรามอบให้จะผ่านการรับรองสุขภาพจากทีมสัตวแพทย์มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรงฉีดวัคซีนติดเครื่องหมายประจำตัวพร้อมใบรับรองประวัติครบถ้วน ถ้าสุนัขเสียชีวิตหรือสูญหายผู้เลี้ยงต้องแจ้งให้สำนักงานทราบ
ลุงดำ จันทะลา อายุ 55 ปี ชาวบ้านกอกอำเภอปลาปากกล่าวว่า ที่บ้านตนมีสุนัข 1 ตัววันนี้ก็มาขอสุนัขไปเลี้ยง 1 ตัว ให้เป็นเพื่อนกันเวลาเข้าป่าออกทุ่งไร่ทุ่งนาซึ่งสุนัขตนที่บ้านมันจะถูกฝึก เป็น "หมาพราน” และสุนัขที่ตนมาขอก็จะฝึกเป็นหมาพรานเช่นกัน โดยสุนัขพรานสัญชาตญาณมันจะแตกต่างกับสุนัขบ้านทั่วไปมันจะเป็นสุนัขนักล่า สัตว์ป่า เช่น งู หนูฯลฯ ชาวบ้านที่อยู่ติดป่าหรือใต้เชิงเขาจะเลี้ยงกันมาก เมื่อเราเข้าป่าหมาพรานมันจะวิ่งล่วงหน้าไปก่อนมันเห็นสัตว์อะไรมันก็จะเห่า เรียกเจ้าของไปหาบางทีมันก็กัดสัตว์เหล่านั้นก็จะเป็นทั้งอาหารในครัวเรือน และตัวมันด้วย
"สุนัขที่เราขอไปเลี้ยงฝึกเป็นสุนัขพรานก็ไม่ยาก สุนัขทุกตัวมันจะมีสัญชาตญาณของมัน แค่เราปล่อยและพามันไปเข้าป่ากับเพื่อนสุนัขพราน มันก็จะปรับตัวเป็นสุนัขพรานไปด้วยขนาดคนยังมีครูสุนัขมันก็ต้องมีครูเช่น กัน”
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น