วันที่ 15 มิ.ย.54 ที่ สภ.ฆ้องชัย อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ชุมพล ปิยะวานิชพงษ์ ผกก.สภ.ฆ้องชัย พ.ต.ท.ศักดิ์โชติ ประสานเกษม รองผกก.สภ.ฆ้องชัย อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ เป็นสักขีพยานในการส่งคืนเงินจำนวน 140,000 บาท และเอกสารสำคัญที่บรรจุในกระเป๋าผ้าสีขาว ให้กับ นางทองคำ พรหมนาสี อายุ 50 ปี ราษฎรหมู่ที่ 1 บ้านตูม ต.ฆ้องชัย อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ โดยมี ด.ต.สุบิน ขันโอฬาร หน.หมู่งานมวลชนสัมพันธ์ สภ.ฆ้องชัย ซึ่งเป็นผู้เก็บได้เป็นผู้มอบคืนให้ ท่ามกลางความยินดีของเจ้าของเงินและเพื่อนตำรวจในสังกัด
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.54 ที่ผ่านมา ด.ต.สุบิน ขันโอฬาร ได้เก็บกระเป๋าถือ ซึ่งเป็นกระเป๋าผ้าสีขาวได้ที่บริเวณม้านั่งเล่น หน้า ธ.ก.ส. สาขา อ.ฆ้องชัย และได้นำกลับคืนให้กับเจ้าของซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ ในการปฏิบัติหน้าที่สายตรวจประจำตำบลอยู่แล้ว ซึ่งได้สร้างดีใจให้กับเจ้าของเงินเป็นอย่างมาก
ด.ต.สุบิน ขันโอฬาร หน.หมู่งานมวลชนสัมพันธ์ สภ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนเองได้ไปรักษาความปลอดภัยที่ธนาคาร ธ.ก.ส. สาขาอ.ฆ้องชัย และขณะที่ปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ ตนได้พบกระเป๋าผ้าวางทิ้งไว้ที่ม้านั่งเล่นด้านหน้าธนาคาร ธ.ก.ส.ก็เฝ้าสังเกตอยู่นานพอสมควร
จึงเดินไปเก็บมาไว้และเปิดดู พบว่า ข้างในมีเอกสารของนางทองคำ เป็นชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ บ้านตูม ตำบลเหล่ากลาง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ จึงตั้งใจจะนำกลับไปส่งคืนให้ที่บ้านหลังเลิกงานประมาณ 15.30 น.แต่เมื่อสังเกตดูกลับพบว่ามีธนบัตรจำนวนมาก แต่ตนเองก็ไม่ได้แตะต้องหรือหยิบขึ้นมานับ และได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ธนาคาร ธ.ก.ส.ที่อยู่ด้านใน ก่อนจะรีบนำกลับคืนไปให้เจ้าของจนถึงมือ
พร้อมกับการรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาเบื้องต้นไว้ ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุดในชีวิตที่ได้ทำความดีครั้งนี้
ด้าน พล.ต.ต.คณิสร น้อยนารถ ผบก.ภ.จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่าจากรายงานของผู้บังคับบัญชาของ ด.ต.สุบิน ขันโอฬาร ทราบว่า ได้ปฏิบัติหน้าที่ ในพื้นที่ ต.เหล่ากลาง เป็นสายตรวจประจำตำบลมานานกว่า 10 ปี และได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งมาโดยตลาด รวมทั้งในสายงานมวลชนสัมพันธ์ และยังเป็นที่รักใคร่ของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นสร้างภาพพจน์ที่ดีของข้าราชการตำรวจในทางที่ดี
นอกจากนี้แล้วในส่วนตัว ต้องขอชื่นชมในความซื่อสัตย์สมกับเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้พิทักษ์และดูแลประชาชนจริงๆ
ด้าน นางทองคำ พรหมนาสี เจ้าของเงิน เล่าว่า วันเกิดเหตุได้เดินทางไปที่ ธ.ก.ส.สาขาฆ้องชัยเพื่อจะจัดการเรื่องเอกสารรับเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ หลังจากสามีเสียชีวิตโดยได้เอาเงินจำนวน 140,000 บาทใส่ไว้ในกระเป๋าถือสีขาว พร้อมๆ กับเอกสารสำคัญต่างๆ และขณะที่นั่งรอเรียกคิวอยู่ด้านนอกธนาคารตนได้วางกระเป๋าไว้ที่ม้านั่งเล่นหน้าธนาคาร มีคนพลุกพล่านจำนวนมาก แต่ด้วยความรีบที่จะไปเบิกเงินที่ ธ.ก.ส.สาขา อ.กมลาไสย จึงไม่ได้หยิบเอากระเป๋าถือใบนั้นขึ้นรถมาด้วย แต่ในความเข้าใจก็คิดว่าลูกชายจะถือขึ้นรถมาให้
จนไปที่ ธ.ก.ส.สาขากมลาไสย เวลาผ่านไปร่วม 2 ชั่วโมง ลูกชายบอกว่าให้เอาเงินมาเข้าบัญชีไว้ทั้งหมด แต่เมื่อหากระเป๋าไม่เจอและก็คิดไม่ออกว่ากระเป๋าหายไปไหนตนก็เป็นลมล้มพับไปในทันทีต่อหน้าพนักงาน ธ.ก.ส.และชาวบ้านที่มาใช้บริการจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส.สาขากมลาไสย ได้โทรศัพท์กลับมาสอบถามที่สาขาฆ้องชัย จึงได้ทราบว่า มีตำรวจเก็บไว้ให้แล้วไม่ต้องเป็นห่วง
จากนั้นไม่นาน ตำรวจที่เก็บกระเป๋าได้ก็นำเอากลับมาคืนให้ในสภาพที่ครบทุกบาททุกสตางค์ ทั้งตนเองและลูกชายต่างวิ่งเข้าไปสวมกอดตำรวจคนนี้ด้วยความดีใจ จนทุกวันนี้ยังไม่หายตื่นเต้นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะหากนึกย้อนกลับไปถ้าไม่มีตำรวจนายนี้ เงินจำนวนมากนี้คงจะหายไปไหนก็ไม่รู้ และตนจะยิ่งเสียใจมากขึ้น เพราะนอกจากสามีมาด่วนจากไปแล้วเงินจำนวนมากยังหายอีกแต่นี้ถือว่าโชคดีที่สุดจริงๆ
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์
แหม เป็นพลเมืองที่ดี หากประเทศมีคนอย่างนี้เยอะๆก็ดีสิ
ตอบลบ