ศรีสะเกษ - ภาคประชาชนและชาวกันทรลักษ์ ศรีสะเกษ เดินหน้าต้านผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซียเข้าพื้นที่ “เขาพระวิหาร” ชายแดนไทย-เขมร ลั่นไทยเป็นเอกราชไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ย้ำ 4.6 ตร.กม.เป็นดินแดนไทย ขณะชาวบ้านยังไม่มั่นใจหลังทหารไทยถอนกำลัง ด้านนักท่องเที่ยวไทยและกัมพูชาทยอยขึ้นเที่ยวผามออีแดง และปราสาทพระวิหาร
วันที่ 22 ก.ค.55 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณข้างถนนสายศรีสะเกษ-เขาพระวิหาร ปากทางเข้าบ้านไฮ หมู่ 3 ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีประชาชนชาวกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และกลุ่มภาคประชาชนในนามเครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทยอีสานใต้-ตะวันออก ได้นำป้ายขนาดใหญ่มาติดตั้งไว้ โดยมีข้อความระบุว่า “ประเทศไทย ประชาชนไทย ไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ไม่ยินยอมให้ผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซียเข้าพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทยอีสานใต้-ตะวันออก” และในป้ายดังกล่าวมีภาพเขาพระวิหารและสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงหลั่งน้ำลง สู่แผ่นดินด้วยสุวรรณภิงคาร (พระเต้าน้ำทองคำ) เพื่อเป็นการประกาศอิสรภาพและมีภาพธงชาติไทยด้วย ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวศรีสะเกษและนักท่องเที่ยวที่สัญจรผ่านไปมาเป็น อย่างมาก
นายกิติศักดิ์ พ้นภัย หัวหน้ากลุ่มกำลังแผ่นดิน กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยที่ประเทศไทยจะต้องไปปฏิบัติตามคำสั่งของศาลโลก เนื่องจากมีหลายประเทศในโลกนี้ที่ไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลโลกก็ไม่ได้ มีผลอะไรต่อประเทศนั้นๆ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีเอกราชไม่ใช่เมืองขึ้นของใครมาแต่โบราณกาลแล้ว จึงไม่จำเป็นที่ต้องฟังคำสั่งของศาลโลก และไม่เห็นด้วยที่จะให้ผู้สังเกตการณ์จากอินโดนีเซียเข้ามาสังเกตการณ์ตาม แนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณเขาพระวิหาร เนื่องจากพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร (ตร.กม.) รอบเขาพระวิหารเป็นเขตแดนของประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันที่บริเวณบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ห่างจากเขาพระวิหารประมาณ 11 กม. ชาวบ้านยังคงอาศัยกันอยู่ตามปกติ และยังคงจับกลุ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับการถอนกำลังทหารไทยออกจากเขาพระวิหาร ซึ่งชาวบ้านส่วนมากยังไม่มีความมั่นใจว่ากำลังตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ไทยที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่แทนทหารไทยที่บริเวณเขาพระวิหารจะสามารถคุ้มกัน ภัยให้ชาวบ้านได้หากมีการสู้รบกันระหว่างไทย-กัมพูชาขึ้นมาอีก และชาวบ้านไม่เชื่อว่าทหารกัมพูชาจะมีการถอนกำลังทหารออกไปจากเขาพระวิหาร จริงตามที่เป็นข่าวทางสื่อมวลชน เพราะที่ผ่านมาแม้จะมีการเจรจาพูดคุยกันแล้ว แต่ทหารกัมพูชาก็มักเปิดฉากปะทะกับทหารไทยก่อนเป็นประจำ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะเดียวกัน ที่บริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หลังจากที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชม ได้ตามปกติหลังจากปิดชั่วคราวจำนวน 2 วัน ระหว่างวันที่ 18-19 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลอ้างว่าเพื่อให้ทหารไทยเคลื่อนย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์ออกจากบริเวณ เขาพระวิหารตามคำสั่งของศาลโลกได้สะดวกนั้น
ล่าสุดวันนี้ (22 ก.ค.) เป็นวันหยุดราชการได้มีนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศพากันทยอยขึ้นไปเที่ยวชม ผามออีแดงซึ่งเป็นประตูสู่เขาพระวิหารกันค่อนข้างคึกคัก โดยมีตำรวจตระเวนชายแดนไทยคอยเฝ้ารักษาความสงบเรียบร้อยอย่างใกล้ชิด ขณะที่บริเวณปราสาทพระวิหาร บนเขาพระวิหาร มีนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาขึ้นมาเที่ยวชมปราสาทพระวิหารกันอย่างคึกคักเช่น กัน โดยมีกำลังตำรวจตระเวนชายแดนของกัมพูชาเฝ้ารักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่
วันที่ 22 ก.ค.55 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณข้างถนนสายศรีสะเกษ-เขาพระวิหาร ปากทางเข้าบ้านไฮ หมู่ 3 ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีประชาชนชาวกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และกลุ่มภาคประชาชนในนามเครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทยอีสานใต้-ตะวันออก ได้นำป้ายขนาดใหญ่มาติดตั้งไว้ โดยมีข้อความระบุว่า “ประเทศไทย ประชาชนไทย ไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ไม่ยินยอมให้ผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซียเข้าพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทยอีสานใต้-ตะวันออก” และในป้ายดังกล่าวมีภาพเขาพระวิหารและสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงหลั่งน้ำลง สู่แผ่นดินด้วยสุวรรณภิงคาร (พระเต้าน้ำทองคำ) เพื่อเป็นการประกาศอิสรภาพและมีภาพธงชาติไทยด้วย ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวศรีสะเกษและนักท่องเที่ยวที่สัญจรผ่านไปมาเป็น อย่างมาก
นายกิติศักดิ์ พ้นภัย หัวหน้ากลุ่มกำลังแผ่นดิน กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยที่ประเทศไทยจะต้องไปปฏิบัติตามคำสั่งของศาลโลก เนื่องจากมีหลายประเทศในโลกนี้ที่ไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลโลกก็ไม่ได้ มีผลอะไรต่อประเทศนั้นๆ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีเอกราชไม่ใช่เมืองขึ้นของใครมาแต่โบราณกาลแล้ว จึงไม่จำเป็นที่ต้องฟังคำสั่งของศาลโลก และไม่เห็นด้วยที่จะให้ผู้สังเกตการณ์จากอินโดนีเซียเข้ามาสังเกตการณ์ตาม แนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณเขาพระวิหาร เนื่องจากพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร (ตร.กม.) รอบเขาพระวิหารเป็นเขตแดนของประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันที่บริเวณบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ห่างจากเขาพระวิหารประมาณ 11 กม. ชาวบ้านยังคงอาศัยกันอยู่ตามปกติ และยังคงจับกลุ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับการถอนกำลังทหารไทยออกจากเขาพระวิหาร ซึ่งชาวบ้านส่วนมากยังไม่มีความมั่นใจว่ากำลังตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ไทยที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่แทนทหารไทยที่บริเวณเขาพระวิหารจะสามารถคุ้มกัน ภัยให้ชาวบ้านได้หากมีการสู้รบกันระหว่างไทย-กัมพูชาขึ้นมาอีก และชาวบ้านไม่เชื่อว่าทหารกัมพูชาจะมีการถอนกำลังทหารออกไปจากเขาพระวิหาร จริงตามที่เป็นข่าวทางสื่อมวลชน เพราะที่ผ่านมาแม้จะมีการเจรจาพูดคุยกันแล้ว แต่ทหารกัมพูชาก็มักเปิดฉากปะทะกับทหารไทยก่อนเป็นประจำ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะเดียวกัน ที่บริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หลังจากที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชม ได้ตามปกติหลังจากปิดชั่วคราวจำนวน 2 วัน ระหว่างวันที่ 18-19 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลอ้างว่าเพื่อให้ทหารไทยเคลื่อนย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์ออกจากบริเวณ เขาพระวิหารตามคำสั่งของศาลโลกได้สะดวกนั้น
ล่าสุดวันนี้ (22 ก.ค.) เป็นวันหยุดราชการได้มีนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศพากันทยอยขึ้นไปเที่ยวชม ผามออีแดงซึ่งเป็นประตูสู่เขาพระวิหารกันค่อนข้างคึกคัก โดยมีตำรวจตระเวนชายแดนไทยคอยเฝ้ารักษาความสงบเรียบร้อยอย่างใกล้ชิด ขณะที่บริเวณปราสาทพระวิหาร บนเขาพระวิหาร มีนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาขึ้นมาเที่ยวชมปราสาทพระวิหารกันอย่างคึกคักเช่น กัน โดยมีกำลังตำรวจตระเวนชายแดนของกัมพูชาเฝ้ารักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น