วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2555

ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์สั่งย้ายด่วน “เภสัชกร” อ้างชื่อ รพ.ซื้อ “ซูโดฯ” ขายร้านตัวเอง

 บุรีรัมย์ -ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ สั่งย้ายด่วน เภสัชกร รพ.หนองกี่ ไปช่วยราชการที่ รพ.ศูนย์บุรีรัมย์ หลังตรวจพบพฤติกรรมแอบอ้างชื่อโรงพยาบาลสั่งซื้อยาซูโดอีเฟดรีน นำไปขายในร้านขายยาตัวเอง พร้อมตั้ง กก.เอาผิดวินัย ด้านผอ.รพ.หนองกี่ โร่แจ้งความทำเสียชื่อเสียงโรงพยาบาลและหวั่นข้อหาพัวพัน ขณะ สสจ.บุรีรัมย์ ตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริง คาด สรุปผลใน 2 สัปดาห์
      
       วันที่ 29 มี.ค.55 นพ.สมพงษ์ จรุงจิตตานุสนธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า หลังจากทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ตรวจสอบ พบว่า นายสมพงษ์ ตีรถะ เภสัชกรปฏิบัติการ โรงพยาบาลหนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ มีพฤติกรรมแอบอ้างชื่อโรงพยาบาลสั่งซื้อยาแกไข้หวัดสูตร ซูโดอีเฟดรีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด ไปจำหน่ายในร้านขายยาของตัวเอง จึงได้รายงานให้ นายคณิต เอี่ยมระหงส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ทราบ
      
       ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้มีคำสั่งย้าย นายสมพงษ์ ตีรถะ เภสัชกรปฏิบัติการ โรงพยาบาลหนองกี่ ให้เข้ามาช่วยราชการที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเอาผิดทางวินัยและกฎหมาย ด้วย
      
       นอกจากนั้น ยังให้มีการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก ว่า ยาซูโดอีเฟดรีน ที่ นายสมพงษ์ ตีรถะ เภสัชกรปฏิบัติการ สั่งมาจำหน่ายมีจำนวนมากน้อยเพียงใด และมีการโยกย้ายถ่ายเทไปยังร้านค้าอื่นหรือไม่
      
       ขณะที่ นพ.บุญโฮม แก้วชนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองกี่ ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.หนองกี่ ไว้เป็นหลักฐาน เพราะทำให้ทางโรงพยาบาลเสียหาย ทั้งเพื่อเป็นการยืนยันว่า ทางโรงพยาบาลไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันในกรณีดังกล่าว ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
      
       นพ.สมพงษ์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบการสั่งยาซูโดอีเฟดรีน ทั้งการสั่งเข้า จ่ายออกรวมถึงการสต๊อกยา ภายในโรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลศูนย์ รวม 22 แห่ง ทั้งจังหวัดบุรีรัมย์ที่รับผิดชอบ ขณะนี้ยังไม่พบความผิดปกติและยังไม่พบมียาหายออกจากระบบของโรงพยาบาลแต่ อย่างใด
      
       ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลหนองกี่ เป็นเรื่องส่วนบุคคลไม่เกี่ยวข้องกับทางโรงพยาบาลแต่อย่างใด โดยทางจังหวัดได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงด้วยความถูกต้อง และเป็นธรรม ซึ่งคาดว่าจะทราบผลการสอบสวนภายใน 2 สัปดาห์
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น