วันอังคารที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2555

ตร.กาฬสินธุ์ลุยค้นบ้านเภสัชหาสารผลิตยาบ้า สสจ.ชงผู้ว่าฯสอบวินัยร้ายแรง

กาฬสินธุ์ - ตำรวจกาฬสินธุ์ บุกค้นบ้านเภสัชกร โรงพยาบาลกมลาไสย หาสารตั้งต้นผลิตยาบ้า พร้อมตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินโยงเครือข่ายยาเสพติด หากพบรวยผิดปกติยึดทรัพย์ทันที ด้าน สาธารณสุขจังหวัด ชงเรื่องเสนอผู้ว่าฯสอบวินัยร้ายแรง 7 เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรวม ผอ.รพ.ถึงใครฟันไม่เลี้ยง ด้าน ดีเอสไอ ลุยเค้นสอบเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ขณะที่มีรายงานว่า ผอ.รพ.ไปเที่ยวญี่ปุ่นกับครอบครัว
      
       ความคืบหน้าการตรวจสอบปัญหายาแอดติเฟดซึ่งมีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีนสารตั้งต้นยาเสพติด หายจากโรงพยาบาลกมลาไสย อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ กว่า 3 แสน 5 หมื่นเม็ด ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการไปยัง ผบ.ตร.ให้ บช.ปส., ป.ป.ส.,และดีเอสไอ เข้าทำคดีเนื่องจากเชื่อว่า ยาจำนวนมากจะมีส่วนโยงใยไปกับโรงพยาบาลในอีกหลายพื้นที่ที่มีปัญหา
      
       โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลกมลาไสย ตำรวจชุดคลี่คลายคดียังพบการตกแต่งบัญชีเบิกยาเพื่อลักลอบนำตัวยาออกไปด้วย
      
       ล่าสุด วันนี้ (19 มี.ค.) พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์หัวหน้าชุดคลี่คลายคดีสารตั้งต้น ยาเสพติด พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ วีระศิริ รองผกก.สืบ.ภ.จว.กาฬสินธุ์พร้อมกำลังตำรวจนอกเครือแบบเข้า นำหมายศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เลขที่ ค 153/2555 เข้าค้นบ้านเลขที่ 207 เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้าน นางสดชื่น วิโทจิตร เภสัชกรระดับ 6 โรงพยาบาลกมลาไสย ผู้ต้องสงสัยคดียาแก้หวัดหายจากโรงพยาบาลกว่า 3 แสน 5 หมื่นเม็ด
      
       โดยผลการตรวจค้นไม่พบยาชนิดดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบบัญชีธนาคารเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวทางการเงิน
      
       พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ หัวหน้าชุดคลี่คลายคดี กล่าวว่า การตรวจสอบจะเสนอให้ยึดทรัพย์ทันที หากพบว่ามีความร่ำรวยผิดปกติ ทั้งนี้ เนื่องจากยาที่หายไปตำรวจยังคงติดตามโยงใยไปถึงเครือข่ายยาบ้าที่คาดว่าภาย ใน 3 วัน จะสามารถสรุปผลไปยัง กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ที่จะเข้ามาทำคดี ทั้งนี้ คดีดังกล่าวผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร.ทำการเร่งรัดติดตามคดีนี้
      
       โดยจะต้องลงโทษผู้ร่วมกระทำผิดทุกรายกับการตรวจสอบติดตามไป ถึงแหล่งรับซื้อยาที่อาจจะถูกนำไปผลิตเป็นยาบ้า ว่า มีการเชื่อมโยงกับจังหวัดที่เกิดปัญหาในลักษณะเดียวกันหรือไม่
      
       นอกจากนี้ ยังมีรายงานถึงกระบวนการสอบข้อเท็จจริงที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ว่า นพ.พิสิทธิ์ เอื้อวงศ์กูล สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ได้สรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อเสนอให้ นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.กาฬสินธุ์ สอบสวนทางวินัยกับ 7 เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกมลาไสย ซึ่งในจำนวนนี้ มี นพ.สุพัฒน์ ธาติเพชร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกมลาไสย รวมอยู่ด้วย และ 2 ใน 7 คนนี้ จะถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงอีกรอบ ทั้งนี้ หลังจากผลการสอบข้อเท็จจริงมีมูลในการทุจริตยา
      
       ส่วนความเคลื่อนไหวในกระบวนการสอบสวนของ สภ.กมลาไสย โดย พ.ต.อ.วันชัย รณชาติชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอกมลาไสย ซึ่งได้รับคำสั่งให้นำ พนักงานสอบสวน เข้าสอบปากคำ นพ.สุพัฒน์ ธาตุเพชร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกมลาไสย เพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการจัดซื้อยาที่มีสูตร ซูโดอีเฟดรีนมากเกินไป แต่ไม่สามารถสอบปากคำเพิ่มเติมได้
      
       ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่า นพ.สุพัฒน์ ธาตุเพชร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกมลาไสย ไม่อยู่ โดยได้ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกับครอบครัว ตามกำหนดการวันหยุดที่ได้จองทัวร์เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
      
       บ่ายวันเดียวกัน พ.ต.ท.สะอาด สุนทร ผอ.ฝ่ายความมั่นคง 3 สำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมพนักงานสอบสวน-เจ้าหน้าที่รวม 3 คน ได้เดินทางเข้า สอบสวนคดีการเบิกจ่ายยาแก้หวัดสูตรผสม ซูโดอีเฟดรีนตามคำสั่งของ พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทร์ขาว ผบช.สำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งมีเพียงเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเข้าให้ปากคำเนื่องจาก นพ.สุพัฒน์ ธาตุเพชร ผอ.รพ.กมลาไสย ไปต่างประเทศ
      
       ทั้งนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้าแสดงตัวเพื่อเข้าสอบปากคำ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกมลาไสย ได้เชิญ เจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ ขึ้นไปบนห้องประชุมชั้น 2 โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนที่ติดตามเข้าร่วมรับฟังผลการสอบสวนแต่อย่างใด ทั้งนี้ ยังมีรายงานว่า ดีเอสไอ จะเข้าสอบสวนเพิ่มเติมในวันพรุ่งนี้โดยจะแถลงผลให้ทราบต่อไป
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น