วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ภาค ปชช.เดินหน้าเปิดเวทีถกมหันตภัยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ชี้แม้รัฐชะลอโครงการฯแต่วางใจไม่ได้

ขอนแก่น - 6 องค์กรภาคีเครือข่ายเปิดเวทีเสวนาที่อำเภอห้วยเม็ก กาฬสินธุ์ถกและแลกเปลี่ยนข้อมูลโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เผยแม้รัฐบาลไทยชะลอโครงการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในไทยแต่ในทางปฏิบัติ กลับส่งคนลงพื้นที่เป่าหูชาวบ้านถึงผลประโยชน์การมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ต่อ เนื่อง ย้ำรัฐต้องให้ข้อมูลผลดี-ผลเสียต่อชาวชุมชนท้องถิ่นรอบด้าน ชี้การรั่วไหลกัมมันตรังสีโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะที่ประเทศญี่ปุ่นจากเหตุการณ์สึ นามิทำให้คนตื่นตัวมหันตภัยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มากขึ้น      
       
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 24 ต.ค.เวลา 10.00 น.ที่ห้องประชุมโรงเรียนหัวหินวัฒนาลัย บ้านหนองนู ต.หัวหิน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ องค์กรภาคี ได้แก่ ศูนย์ข้อมูลสิทธิมนุษยชนและสันติภาพ (ศสส.) อีสาน, เครือข่ายพลังงานทางเลือกเพื่ออนาคต, เครือข่ายติดตามเรื่องนิวเคลียร์ จังหวัดกาฬสินธุ์, เครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภาคอีสาน, มหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ และ Mekong school Alumni, EarthRights International ได้จัดเวทีเสวนาเรื่องโรงฟ้านิวเคลียร์โดยมีผู้นำชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่กว่า 60 คน เข้าร่วมรับฟัง และแลกเปลี่ยนข้อมูล
      
       ทั้งนี้ สืบเนื่องจากตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2553-2573 หรือ แผน PDP2010 (Thailand Power Development Plan 2010) ได้กำหนดแผนในการสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้นถึง 29 โรง โรงไฟฟ้าถ่านหิน 9 โรง โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ 9 โรง และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 5 โรง เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 52,890 เมกะวัตต์ ในระยะ 20 ปี (ปี 2573)จากเดิมผลิตได้ 28,045 เมกะวัตต์ (ปี 2552) และได้มีการกำหนดเดินเครื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เครื่องแรกในปี 2563
      
       ซึ่งทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ.ได้แสดงรายงานหัวข้อการศึกษาเรื่องสถานที่ตั้ง ซึ่งใช้องค์ประกอบการพิจารณา 3 ด้านคือ ด้านวิศวกรรม ด้านสิ่งแวดล้อม และเศรษฐศาสตร์ สรุปว่าพื้นที่เหมาะสมเป็นที่ตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 5 อันดับแรกคือ 1.อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี 2.ต.พนมรอก อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ 3.ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด 4. ต.คันธุลี อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี และ5.ปากน้ำละแม อ.ละแม จ.ชุมพร
      
       โดยเป้าหมายหลักคือ จ.นครสวรรค์ และอุบลราชธานี แต่ในขณะเดียวกันพื้นที่ อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งไม่ได้ถูกระบุในแผน PDP ก็เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีการดำเนินการสำรวจตั้งแต่ปลายปี 2553 และวางเป้าหมายที่จะทำโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในพื้นที่เช่นกัน
      
       นายสุวิทย์ กุหลาบวงษ์ ผู้ประสานงานศูนย์ข้อมูลสิทธิมนุษยชนและสันติภาพ (ศสส.) อีสาน กล่าวว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์สึนามิและการรั่วไหลของกัมมันตรังสีของโรงไฟฟ้าฟูกู ชิมะที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้เกิดการตื่นตัวของกระแสสังคมทั่วโลก ส่วนในประเทศไทยส่งผลให้รัฐบาลประกาศชะลอโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แต่ในทางปฏิบัติ การดำเนินการด้านการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับประโยชน์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ยังมีอย่างต่อเนื่อง และขยายลงสู่ชุมชน
      
       ในขณะที่ความชัดเจนในด้านความรู้เรื่องนิวเคลียร์อย่างรอบด้านของ ประชาชนยังไม่มี ซึ่งประเด็นเหล่านี้ทางสังคมและชุมชน ที่เกี่ยวข้องควรจะได้รับการรับรู้และวิเคราะห์ถึงความเหมาะสมในด้านการ พัฒนาพลังงาน
      
       “เรากำลังจะเอาพื้นที่เกษตรกรรมอันอุดมสมบูรณ์ไปแลกกับอุตสาหกรรม ในขณะที่ชุมชนก็มักจะถูกอ้างเสมอว่าเพื่อการพัฒนา แต่ไม่เคยได้รับรู้ข้อมูลข่าวสาร ฉะนั้นจะต้องตอบคำถามให้ได้ว่าถ้ามีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แล้วคุณภาพชีวิตเราจะ ดีขึ้นหรือไม่ นายสุวิทย์กล่าว
      
       ด้าน ดร.ธวัชวงศ์ชัย ไตรทิพย์ นักวิชาการ กลุ่มงานวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฎกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ชาวบ้านได้รับทราบข้อมูลจากกระแสข่าวว่าจะมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ จ.กาฬสินธุ์ และมีการลงสำรวจพื้นที่ หลังจากนั้นทางการก็เข้ามาให้ข้อมูลฝ่ายเดียวว่าเราจะมีการพัฒนา และมีไฟฟ้าใช้อย่างมั่นคง แต่ยังไม่เคยมีใครเข้ามาให้ข้อมูลกับชาวกาฬสินธุ์อย่างสมบูรณ์ ว่าจะมีผลกระทบหรือไม่ และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
      
       “ผลกระทบเกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ผู้คนตื่นตัวกันมากขึ้น ดังนั้น ในเวทีเสวนาครั้งนี้จึงเป็นนิมิตหมายที่ดีที่เราจะร่วมกันเรียนรู้ และรณรงค์เผยแพร่ เพื่อให้สังคมได้ตระหนักถึงการใช้พลังงาน และรู้เท่าทันปัญหาการพัฒนาพลังงานของประเทศ ดร.ธวัชวงศ์ชัย กล่าว
      
       ขณะที่ทางด้านนายสมคิด เหล่าประชา ชาวบ้านในตำบลกุดโดน หมู่ที่ 13 ระบุว่า ในพื้นที่มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ดังนั้น ควรมีการให้การศึกษากับคนในชุมชนทั้งนักเรียน ผู้นำ และชาวบ้าน ซึ่งไม่ใช่การต่อต้านหรือบอกว่าจะเอาโครงการ แต่อยากเน้นการให้ข้อมูลความรู้อย่างรอบด้าน แล้วมีการขยายเวทีไปสู่ภาคส่วนต่างๆ
      
       นายสมคิด กล่าวยอมรับว่า ที่ผ่านมาทางการได้เข้ามาเปิดเวทีและให้ข้อมูลแต่ด้านดี แจกผ้าห่ม พร้อมกับเงิน 200 บาท แล้วให้ชาวบ้านยกมือเห็นด้วย ซึ่งบางคนก็ไม่รู้เรื่อง เห็นเขายกมือก็ยกมือตามเขา ทว่าพวกเราไม่เคยได้รับรู้ข้อมูลเลยว่านิวเคลียร์มันคืออะไร จะมีผลกระทบหรือไม่
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น