วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2554

นครขอนแก่นแปรรูปขยะสำเร็จผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้า-น้ำมัน

ขอนแก่น - เทศบาลนครขอนแก่นประสบความสำเร็จแปรรูปขยะไร้ค่าเป็นพลังงานไฟฟ้า และผลิตเป็นน้ำมัน เผยใช้เทคโนโลยีไพโรไลซีสผลิตน้ำมันได้ไม่ต่ำกว่า 4,500 ลิตรต่อวัน ใช้ได้กับเครื่องยนต์ความเร็วรอบต่ำ ทั้งเครื่องตัดหญ้า และมอเตอร์ไซค์ โดยเทศบาลนครขอนแก่นเป็น 1 ใน 3 เทศบาลนำร่องโครงการส่งเสริมการแปรรูปจากขยะพลาสติกที่ สนพ.ให้การสนับสนุน              นายพีระพล พัฒนพีรเดช นายกเทศมนตรีเทศบาลนครขอนแก่น เปิดเผยว่าหลายปีที่ผ่านมา เทศบาลนครขอนแก่นประสบกับปัญหาการกำจัดขยะ เนื่องจากสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยของเทศบาลฯ ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 98 ไร่ ตั้งอยู่ที่บ้านคำบอน อ.เมือง ไม่สามารถรองรับปริมาณขยะมูลฝอยที่ต้องกำจัดทั้งสิ้นประมาณ 262 ตันต่อวันได้ ซึ่งในจำนวนนี้มีขยะของเทศบาลฯ ประมาณ 164 ตันต่อวัน และมีส่วนของท้องถิ่นอื่นประมาณ 98 ตันต่อวัน นอกจากนี้ยังมีขยะเดิมที่ตกค้างอยู่สถานีกำจัดขยะประมาณ 800,000 ตัน
      
       จากปริมาณขยะจำนวนมหาศาลดังกล่าว ส่งผลทำให้เกิดปัญหามลพิษจากขยะมูลฝอย เช่น ปัญหาน้ำเน่าเสีย การปนเปื้อนแหล่งน้ำผิวดิน-ใต้ดิน การปลิวของขยะรวมถึงมลพิษจากกลิ่น เป็นต้น
      
       นายพีระพลระบุว่า สำหรับในเขตเทศบาลฯ จะพบว่าขยะตามบ้านพักอาศัยนั้นมีพลาสติกปนอยู่ในขยะเป็นจำนวนมาก อาจมากถึง 20% ของปริมาณขยะทั้งหมด คือ ขยะ 1 ตันจะมีพลาสติกอยู่ประมาณ 200 กิโลกรัม โดยเฉลี่ยขยะที่เข้ามา 262 ตันต่อวัน จะมีพลาสติก 52.4 ตันต่อวัน และในกองขยะเก่า 800,000 ตัน เดิมก็จะมีขยะพลาสติกราวๆ 160,000 ตัน ถือเป็นปริมาณที่มาก
      
       “พลาสติกเหล่านี้อีก 400 ปี จึงจะย่อยสลายได้หมด ดังนั้นจะเห็นได้ว่าขยะพลาสติกเหล่านี้มีมากมายในกองขยะบ้านเรา และย่อยสลายช้ามากโดยการย่อยสลายก็จะเกิดสาร ก่อมะเร็งขึ้นอีก เทศบาลฯ จึงพิจารณาหาแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหาและคำนึงถึงประโยชน์อันสูงสุด ที่ควรจะได้รับจากการดำเนินงานกำจัดขยะมูลฝอยในอนาคตนายพีระพลกล่าว และว่า
      
       อย่างไรก็ตาม เทศบาลฯ มีเป้าหมายในการจัดการขยะตามเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยแปรรูปขยะเป็นพลังงาน (waste to energy) โดยเทคโนโลยียุคนี้มักจะพูดกันเกี่ยวกับการแปรรูปขยะเป็นน้ำมันและไฟฟ้า จะเห็นว่าน้ำมันและกระแสไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงานสำคัญของทุกประเทศในโลก แต่เดิมผู้คนต่างคิดว่าขยะนั้นไม่มีคุณค่าแต่ปัจจุบันนี้ใครมีขยะก็เปรียบ เสมือนทองคำ เพราะขยะเหล่านี้จะเป็นแหล่งรายได้แหล่งพลังงานในอนาคต
      
       นายพีระพลกล่าวอีกว่า ปัจจุบันเทศบาลนครขอนแก่นประสบความสำเร็จในการแปรรูปขยะไร้ค่าเหล่านี้เป็น พลังงานไฟฟ้า และผลิตเป็นน้ำมัน การแปรรูปขยะเป็นน้ำมัน เริ่มจากระบบคัดแยกขยะและระบบแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันด้วยเทคโนโลยีไพโร ไลซีส (Pyrolysis) เป็นระบบที่ใช้ความร้อนในสภาวะไร้อากาศทำให้พลาสติกเกิดเป็นไอระเหยและถูก ควบแน่นให้กลายเป็นน้ำมัน สามารถกำจัดขยะพลาสติกเข้าระบบได้ไม่น้อยกว่าวันละ 6 ตัน ผลิตน้ำมันได้ไม่น้อยกว่าวันละ 4,500 ลิตร ผลิตภัณฑ์ที่ได้เป็นน้ำมันดิบ (Crude oil) ซึ่งมีคุณสมบัติที่สามารถใช้กับเครื่องยนต์ประเภทความเร็วรอบต่ำได้ เช่น เครื่องตัดหญ้า หรือแม้กระทั้งมอเตอร์ไซด์ เป็นต้น
      
       ทั้งนี้ นายพีระพลกล่าวว่าในปี พ.ศ. 2551 เทศบาลนครขอนแก่นเป็น 1 ใน 3 เทศบาลฯได้รับการคัดเลือกจาก สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน ให้เป็นพื้นที่นำร่องในการจัดตั้งโครงการส่งเสริมการแปรรูปจากขยะพลาสติกเป็นน้ำมันและได้รับการสนับสนุนเงินทุนจาก สนพ.ในวงเงิน 30.1 ล้านบาท จากงบประมาณโครงการฯ รวมทั้งหมด 96 ล้านบาท ในส่วนที่เหลือประมาณ 65.9 ล้านบาท เป็นเงินที่เทศบาลฯสมทบ เทศบาลฯได้ว่าจ้าง มหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นที่ปรึกษา
      
       อย่างไรก็ตาม การสมทบเงินของเทศบาลฯ จำนวน 65.9 ล้านบาท ถือว่าเป็นจำนวนเงินงบประมาณที่สูงมาก ทำให้เกิดผลกระทบต่อการพัฒนาเมืองในด้านอื่น ดังนั้น เทศบาลฯ จึงได้คิดหาแนวทางที่ประหยัด และเหมาะสมโดยเชิญชวนให้เอกชนเข้ามาลงทุนในส่วนนี้ โดยให้สิทธิในการผลิตและนำน้ำมันที่ได้ไปใช้ โดยรายได้ที่เกิดขึ้นเทศบาลฯ ขอแบ่งส่วนแบ่งรายได้ประมาณ 30% ซึ่งเป็นเงินรวมแล้วประมาณ 8 ล้านบาทเศษ
      
       ทั้งนี้ จะเห็นว่าเทศบาลฯไม่ได้ใช้เงินของเทศบาลฯ ในการลงทุนโครงการนี้แถมยังได้รายได้กลับมาจากการเช่าที่ดิน การจัดประโยชน์ตลอด 3 ปีจากน้ำมันเพิ่มอีก 8 ล้านบาทเศษ และสำคัญที่สุด คือ เทศบาลฯ สามารถกำจัดขยะได้วันละ 6 ตัน คิดเป็นขยะที่ถูกกำจัดทั้งหมด 5,400 ตัน โดยขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างโครงการฯ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ตั้งอยู่บนพื้นที่ 2 ไร่ของสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยของเทศบาลฯ
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น