เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า หนองคาย 1 สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร เฝ้าไร่และตำรวจภูธรโพนพิสัย ตรวจยึดไม้พะยูง 32 ท่อน มูลค่ากว่า 1.5 แสนบาท หลังจากขับรถไล่คนร้าย แต่พลาดรถตกลงข้างทาง ผู้ต้องหาอาศัยความมืดหลบหนีไปได้
เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 7 ก.ค.54 นายทรัพย์สิน จง ดี นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่หนองคาย 1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เฝ้าไร่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพนพิสัย และผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านผือ ต.บ้านผือ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ได้ร่วมกันตรวจสอบไม้พะยูง จำนวน 32 ท่อน แต่ละท่อนยาวประมาณ 2 เมตร หน้ากว้าง ตั้งแต่ 15-35 ซ.ม. ปริมาตรรวม 2.5 ลูกบาศก์เมตร มูลค่าประมาณ 150,000 บาท ที่ใช้รถยนต์มิตซูบิชิ หมายเลขทะเบียน รล 358 กทม.ขนมา ซึ่งตกลงไปในนาข้าวของชาวบ้านข้างถนน
ทั้งนี้ นายทรัพย์สิน จงดี นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ หนองคาย 1 ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการขนย้ายไม้พะยูงหวงห้าม ผ่านพื้นที่จังหวัดหนองคาย เพื่อนำไปส่งต่อในพื้นที่อำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวน ตามพื้นที่ที่รับผิดชอบ
พอขับรถไปถึงบ้านหนองยาง ต.เฝ้าไร่ อ.เฝ้าไร่ รถยนต์ มิตซูบิชิ สตราดร้า สีเขียว หมายเลขทะเบียน รล 358 กทม วิ่งสวนมา ตรงตามที่สายลับแจ้ง จึงนำกำลังเข้าจับกุมแต่ ผู้ต้องหาไหวตัวทัน ได้ขับรถหนี ตนจึงขับตามและพยายามจะแสดงตัวขอตรวจค้นแต่พอรถวิ่งมาถึงบริเวณถนนสายเซิม โพนพิสัย บริเวณบ้านผือ ต.บ้านผือ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย
เจ้าหน้าที่ไล่ตามมาทันรถต้องสงสัย ทำให้ผู้ต้องหาที่มากับรถยนต์กระบะมิตซูบิชิทั้ง 2 คน ได้ยกมือขึ้นยอมให้จับ แต่พอเจ้าหน้าที่จะจอดรถ ผู้ต้องหาทั้งสองได้กระโดดลงจากรถ ปล่อยให้รถวิ่งตกข้างทางลงไปทับต้นข้าวของชาวบ้านเสียหาย ก่อนจะอาศัยความมืดหลบหนีไปได้
จากการตรวจสอบรถคันดังกล่าวพบไม้พะยูงจำนวน 32 ท่อน ซึ่งมีขนาดที่แตกต่างกัน ยาวประมาณ 2 เมตร หน้ากว้าง ตั้งแต่ 15-35 เซนติเมตร ภายในรถยังพบหลักฐาน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของนายวิไล บุตรมาลา อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 ม.9 ต.ทุ่งสว่าง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ จึงทำการตรวจยึดไว้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า ไม้ดังกล่าวนี้ จะถูกตัดจากป่าอุทยานในพื้นที่ภาคอีสาน แล้วถูกลำเลียงมา เพื่อลำเลียงข้ามแม่น้ำโขงส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะได้นำไม้ของกลางส่งเก็บรักษาที่หน่วยรักษาป่า อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคายต่อไป
เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 7 ก.ค.54 นายทรัพย์สิน จง ดี นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่หนองคาย 1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เฝ้าไร่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพนพิสัย และผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านผือ ต.บ้านผือ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ได้ร่วมกันตรวจสอบไม้พะยูง จำนวน 32 ท่อน แต่ละท่อนยาวประมาณ 2 เมตร หน้ากว้าง ตั้งแต่ 15-35 ซ.ม. ปริมาตรรวม 2.5 ลูกบาศก์เมตร มูลค่าประมาณ 150,000 บาท ที่ใช้รถยนต์มิตซูบิชิ หมายเลขทะเบียน รล 358 กทม.ขนมา ซึ่งตกลงไปในนาข้าวของชาวบ้านข้างถนน
ทั้งนี้ นายทรัพย์สิน จงดี นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ หนองคาย 1 ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการขนย้ายไม้พะยูงหวงห้าม ผ่านพื้นที่จังหวัดหนองคาย เพื่อนำไปส่งต่อในพื้นที่อำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวน ตามพื้นที่ที่รับผิดชอบ
พอขับรถไปถึงบ้านหนองยาง ต.เฝ้าไร่ อ.เฝ้าไร่ รถยนต์ มิตซูบิชิ สตราดร้า สีเขียว หมายเลขทะเบียน รล 358 กทม วิ่งสวนมา ตรงตามที่สายลับแจ้ง จึงนำกำลังเข้าจับกุมแต่ ผู้ต้องหาไหวตัวทัน ได้ขับรถหนี ตนจึงขับตามและพยายามจะแสดงตัวขอตรวจค้นแต่พอรถวิ่งมาถึงบริเวณถนนสายเซิม โพนพิสัย บริเวณบ้านผือ ต.บ้านผือ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย
เจ้าหน้าที่ไล่ตามมาทันรถต้องสงสัย ทำให้ผู้ต้องหาที่มากับรถยนต์กระบะมิตซูบิชิทั้ง 2 คน ได้ยกมือขึ้นยอมให้จับ แต่พอเจ้าหน้าที่จะจอดรถ ผู้ต้องหาทั้งสองได้กระโดดลงจากรถ ปล่อยให้รถวิ่งตกข้างทางลงไปทับต้นข้าวของชาวบ้านเสียหาย ก่อนจะอาศัยความมืดหลบหนีไปได้
จากการตรวจสอบรถคันดังกล่าวพบไม้พะยูงจำนวน 32 ท่อน ซึ่งมีขนาดที่แตกต่างกัน ยาวประมาณ 2 เมตร หน้ากว้าง ตั้งแต่ 15-35 เซนติเมตร ภายในรถยังพบหลักฐาน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของนายวิไล บุตรมาลา อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 ม.9 ต.ทุ่งสว่าง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ จึงทำการตรวจยึดไว้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า ไม้ดังกล่าวนี้ จะถูกตัดจากป่าอุทยานในพื้นที่ภาคอีสาน แล้วถูกลำเลียงมา เพื่อลำเลียงข้ามแม่น้ำโขงส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะได้นำไม้ของกลางส่งเก็บรักษาที่หน่วยรักษาป่า อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคายต่อไป
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น