นครพนม - เผยใกล้หน้าหนาวออเดอร์หมาเข้าเวียดนามเพิ่ม สนองค่านิยมความเชื่อเปิบแล้วให้พลังงานความอบอุ่นแก่ร่างกาย ราคาซื้อขายเพิ่มขึ้นเท่าตัว เหตุแก๊งค้าหมายอมเสี่ยงลอบส่งออก ถูกจับแค่โทษจิ๊บๆ แต่หากรอดรายได้ก้อนโต ขณะที่จังหวัดนครพนมสั่งสกัดตัดวงจรค้าสุนัขข้ามชาติ ทุกพื้นที่อำเภอตามแนวชายแดน ดึงผู้นำชุมชนท้องถิ่น ร่วมแจ้งเบาะแส ด้านเจ้าหน้าที่เร่งเยียวยาสุนัขที่ล้มป่วย พร้อมคัดแยกลดแออัด หวั่นติดเชื้อระบาดตายเพิ่ม
วันที่ 8 ก.ย.54 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดนครพนม มาตรการป้องกันสกัดกั้นปราบปรามจับกุมขบวนการลักลอบลำเลียงสุนัขส่งออกไปขายที่ประเทศเวียดนาม ยังคงเข้มข้น หลังจากกลุ่มขบวนการค้าสุนัขข้ามชาติ ยังคงพยายามหาทางลักลอบนำสุนัขส่งออกไปขายทุกรูปแบบ ทำให้มีการตรวจยึดสุนัขได้เพิ่มเติมอีก จำนวน 89 ตัว ในพื้นที่ อ.บ้านแพง พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2554 ที่ผ่านมา
โดยทาง นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้มีคำสั่งให้หน่วยงานฝ่ายปกครอง ประสานงานร่วมกับ ตำรวจ ทหารหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง และผู้นำชุมชนท้องถิ่น เข้มงวดในการปราบปรามสกัดกั้นจับกุมต่อเนื่อง
พร้อมได้มีการตั้งชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ ฝังตัวสืบสวนหาข่าวปราบปรามจับกุมในพื้นที่ อำเภอตามแนวชายแดน อย่างเข้มขวด เพื่อตัดวงจรการค้าสุนัขเด็ดขาด พร้อมยืนยันจะไม่ให้มีการลำเลียงสุนัขข้ามไปขายเวียดนาม ผ่านพื้นที่นครพนม หากยังไม่มีกฎหมายรองรับ
อีกทั้งช่วงนี้ใกล้ถึงฤดูหนาว กลุ่มขบวนการค้าสุนัขจะมีออเดอร์สั่งนำเข้าไปเวียดนามจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะมีการนำไปทำอาหารในช่วงฤดูหนาว เพราะเป็นมีค่านิยมเชื่อว่าทำให้ร่างกายอบอุ่น ซึ่งจะส่งผลให้ราคาสุนัขแพงมากขึ้นเท่าตัว จึงเป็นปัจจัยในการลักลอบค้าสุนัขมากขึ้น จึงต้องมีการคุมเข้มปราบปรามต่อเนื่อง
เพราะปัญหาเรื่องบทลงโทษทางกฎหมายไม่รุนแรง ทำให้กลุ่มขบวนการค้าสุนัขไม่เกรงกลัว ยอมเสี่ยงทำผิดซ้ำ หากรอดจากการจับกุมถือว่ามีรายได้ที่คุ้มค่ามาก
สำหรับการดูแลรักษาสุนัขที่ด่านกักกันสัตว์นครพนม ที่เหลือทั้งหมด จำนวน 917 ตัว เจ้าหน้าที่ยังคงรักษาเยียวยาให้รอดชีวิตมากที่สุด พร้อมปรับปรุงสถานที่โรงเรือน ให้มีความสะอาด และลดปัญหาแออัด ซึ่งในการดูแลยังประสบปัญหาเรื่อง การระบาดของโรคไข้หัดสุนัข ไวรัสทางเดินอาหาร และทางเดินหายใจ ที่มีสุนัขติดเชื้อป่วยจำนวนประมาณ 50 ตัว เสี่ยงต่อการตายสูง และยังเป็นโรคที่แพร่ระบาดง่ายจึงต้องให้การดูแลรักษาเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ มีรายงานว่าเมื่อบ่ายวานนี้ (7 ก.ย.) คณะสัตว์แพทย์อาสาจากโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อและจากคณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ จำนวน 11 คน ได้เดินทางมาช่วยเหลือสุนัขที่ด่านกักกันสัตว์นครพนม โดยหลังจากทั้งหมดได้ขอรับทราบข้อมูลการดำเนินการรักษาพยาบาลจากคณะแพทย์ของกรมปศุสัตว์แล้วก็ลงมือปฎิบัติการรักษาโรคสุนัขทันที
สัตวแพทย์หญิง ทัศวริน กาญจฉายา จากโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อกรุงเทพ เปิดเผยว่า หลังจากรับทราบข้อมูลการรักษาพยาบาลที่ผ่านมาแล้ว พบว่า สุนัขอยู่กันเป็นจำนวนมากจนแออัดกัน จนมีการติดเชื้อไวรัส จากตัวหนึ่งไปสู่อีกตัวหนึ่งอย่างง่ายดาย โดยสาเหตุที่สุนัขตายเป็นจำนวนมาก มาจากการติดเชื้อไวรัสหัดสุนัข และไวรัสลำไส้อักเสบ ซึ่งถือเป็นโรคระบาดที่ร้ายแรงมากในสุนัข
โดยที่ผ่านมา สุนัขบางตัวที่ตายทางทีมแพทย์ตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสทั้งสองชนิด จึงทำให้เห็นว่า ปัญหาเร่งด่วนตอนนี้น่าจะเป็นปัญหาของการบริหารจัดการสุนัข การคัดแยกตัวที่ป่วยออกมารักษา และตัวที่เริ่มแสดงอาการออกมาจากคอกต่างหาก เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
นอกจากนี้ เวชภัณฑ์รักษาบางชนิดไม่มีจำหน่ายที่นครพนม ก็จะสั่งมาจากกรุงเทพฯเพื่อเร่งฟื้นฟูและรักษาสุนัขเหล่านี้ให้มีชีวิตรอดต่อไป โดยคณะเจ้าหน้าที่อาสาที่มาใหม่จะคอยเติมเต็มให้กับทีมแพทย์เดิมให้การดำเนินการฟื้นฟูสุขภาพสุนัขให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อลดอัตราการตายของสุนัขให้น้อยลงกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งตายเฉลี่ย 10-12 ตัวต่อวัน
วันที่ 8 ก.ย.54 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดนครพนม มาตรการป้องกันสกัดกั้นปราบปรามจับกุมขบวนการลักลอบลำเลียงสุนัขส่งออกไปขายที่ประเทศเวียดนาม ยังคงเข้มข้น หลังจากกลุ่มขบวนการค้าสุนัขข้ามชาติ ยังคงพยายามหาทางลักลอบนำสุนัขส่งออกไปขายทุกรูปแบบ ทำให้มีการตรวจยึดสุนัขได้เพิ่มเติมอีก จำนวน 89 ตัว ในพื้นที่ อ.บ้านแพง พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2554 ที่ผ่านมา
โดยทาง นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้มีคำสั่งให้หน่วยงานฝ่ายปกครอง ประสานงานร่วมกับ ตำรวจ ทหารหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง และผู้นำชุมชนท้องถิ่น เข้มงวดในการปราบปรามสกัดกั้นจับกุมต่อเนื่อง
พร้อมได้มีการตั้งชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ ฝังตัวสืบสวนหาข่าวปราบปรามจับกุมในพื้นที่ อำเภอตามแนวชายแดน อย่างเข้มขวด เพื่อตัดวงจรการค้าสุนัขเด็ดขาด พร้อมยืนยันจะไม่ให้มีการลำเลียงสุนัขข้ามไปขายเวียดนาม ผ่านพื้นที่นครพนม หากยังไม่มีกฎหมายรองรับ
อีกทั้งช่วงนี้ใกล้ถึงฤดูหนาว กลุ่มขบวนการค้าสุนัขจะมีออเดอร์สั่งนำเข้าไปเวียดนามจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะมีการนำไปทำอาหารในช่วงฤดูหนาว เพราะเป็นมีค่านิยมเชื่อว่าทำให้ร่างกายอบอุ่น ซึ่งจะส่งผลให้ราคาสุนัขแพงมากขึ้นเท่าตัว จึงเป็นปัจจัยในการลักลอบค้าสุนัขมากขึ้น จึงต้องมีการคุมเข้มปราบปรามต่อเนื่อง
เพราะปัญหาเรื่องบทลงโทษทางกฎหมายไม่รุนแรง ทำให้กลุ่มขบวนการค้าสุนัขไม่เกรงกลัว ยอมเสี่ยงทำผิดซ้ำ หากรอดจากการจับกุมถือว่ามีรายได้ที่คุ้มค่ามาก
สำหรับการดูแลรักษาสุนัขที่ด่านกักกันสัตว์นครพนม ที่เหลือทั้งหมด จำนวน 917 ตัว เจ้าหน้าที่ยังคงรักษาเยียวยาให้รอดชีวิตมากที่สุด พร้อมปรับปรุงสถานที่โรงเรือน ให้มีความสะอาด และลดปัญหาแออัด ซึ่งในการดูแลยังประสบปัญหาเรื่อง การระบาดของโรคไข้หัดสุนัข ไวรัสทางเดินอาหาร และทางเดินหายใจ ที่มีสุนัขติดเชื้อป่วยจำนวนประมาณ 50 ตัว เสี่ยงต่อการตายสูง และยังเป็นโรคที่แพร่ระบาดง่ายจึงต้องให้การดูแลรักษาเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ มีรายงานว่าเมื่อบ่ายวานนี้ (7 ก.ย.) คณะสัตว์แพทย์อาสาจากโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อและจากคณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ จำนวน 11 คน ได้เดินทางมาช่วยเหลือสุนัขที่ด่านกักกันสัตว์นครพนม โดยหลังจากทั้งหมดได้ขอรับทราบข้อมูลการดำเนินการรักษาพยาบาลจากคณะแพทย์ของกรมปศุสัตว์แล้วก็ลงมือปฎิบัติการรักษาโรคสุนัขทันที
สัตวแพทย์หญิง ทัศวริน กาญจฉายา จากโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อกรุงเทพ เปิดเผยว่า หลังจากรับทราบข้อมูลการรักษาพยาบาลที่ผ่านมาแล้ว พบว่า สุนัขอยู่กันเป็นจำนวนมากจนแออัดกัน จนมีการติดเชื้อไวรัส จากตัวหนึ่งไปสู่อีกตัวหนึ่งอย่างง่ายดาย โดยสาเหตุที่สุนัขตายเป็นจำนวนมาก มาจากการติดเชื้อไวรัสหัดสุนัข และไวรัสลำไส้อักเสบ ซึ่งถือเป็นโรคระบาดที่ร้ายแรงมากในสุนัข
โดยที่ผ่านมา สุนัขบางตัวที่ตายทางทีมแพทย์ตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสทั้งสองชนิด จึงทำให้เห็นว่า ปัญหาเร่งด่วนตอนนี้น่าจะเป็นปัญหาของการบริหารจัดการสุนัข การคัดแยกตัวที่ป่วยออกมารักษา และตัวที่เริ่มแสดงอาการออกมาจากคอกต่างหาก เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
นอกจากนี้ เวชภัณฑ์รักษาบางชนิดไม่มีจำหน่ายที่นครพนม ก็จะสั่งมาจากกรุงเทพฯเพื่อเร่งฟื้นฟูและรักษาสุนัขเหล่านี้ให้มีชีวิตรอดต่อไป โดยคณะเจ้าหน้าที่อาสาที่มาใหม่จะคอยเติมเต็มให้กับทีมแพทย์เดิมให้การดำเนินการฟื้นฟูสุขภาพสุนัขให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อลดอัตราการตายของสุนัขให้น้อยลงกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งตายเฉลี่ย 10-12 ตัวต่อวัน
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น